18 กรกฎาคม 2552 19:24 น.

But Hope Still Remains...!

พุด


ติดปีกใจสู่ไพรกว้าง
ในเส้นทางสายรุ้งแห่งความฝัน
พบบึงบัวบานพราวมหัศจรรย์
ในรุ่งวันงามเงียบสงบใจ

ทอดตาดูดงตาลหวานว้าเหว่
รอรักเร่แรมร้างสู่ทางไหน
เจ้านวลนางเนื้อทองพลัดพรากไกล
นานแค่ไหนคืนบ้านวิมานดิน

แก้วร่วงพราวหนาวฤดีเดือนปีผ่าน
ลั่นทมรานปลิดโปรยด้วยถวิล
การะเวกพร่างพ้อรอมิสิ้น
กับฝนรินกับฟ้าร่ำทุกค่ำคืน

รักคือรอรอคือรักใช่ไหมเล่า
แม้นจำเศร้าหนาวซ้ำทุกคราตื่น
ด้วยเพรงพรหมชะตามิยั่งยืน
เพียงชีพชื่นฤารานช้ำรู้ทำใจ....!

 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song255.html
สายสร้อยร้อยใจ ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ 

สายสร้อยร้อยใจสายไยสวาท
หมายขาดหลุดสุดหนทาง
รักจางตรอมตรมไม่หาย
โอ้ใจเอ๋ย ไหน เลย มาหน่าย
ฟ้า ดินแม้สิ้นสลาย รักมิคลายรักสุดบูชา
สายจิตร้อยทรวงไยลวงหลอกหลอน
อกสั่น หวั่นรักรอน ยามกินยามนอนผวา 
ภาพความหลัง นั้น ยัง เตือนตา 
น้อง คงมิปรารถนา จึง ลาระทมตรมใจ
พี่ แพ้ เจ้าไม่แลเหลียวมองมาเลย 
อก เอ๋ย ไปชื่นชมหลงคารมใคร 
พี่ รัก ใช่หลอกลวงรักเต็มทรวงใน
รัก ซ่อนซ้อนใจ ห่วงหรือไรทิ้งพี่ให้ตรม
สายโซ่คล้องใจสายไยสวาท
พี่อยู่ ก็เหมือนคน ไม่กายไร้ใจชื่นชม 
สร้อยใจหาย รัก กลาย เป็นลม 
เหลือรอยสายสร้อยขื่นขม 
ร้อยอารมณ์ระทมตรมทรวง... 
 
  

ฝากหมอนนอนหอม..

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song591.html
(ฝากหมอน)
.................

คืนเดือนเสี้ยว...ที่จันทร์ดูแสนเศร้า
และ...
ใจดวงร้าวของมวลมนุษย์ในหล้า 
ยังคงมากมายมากมี
ที่รอ..
*ฝากใจไปกับจันทร์ ฝากฝันไปดาว *
เคล้า...ไปกับสายลมระริน..ระริน
ให้..
บินโบก ไปเหนือทางช้างเผือก
เหนือโลกย์โศกสุขนี้
ไปสู่
แดนดินแห่ง*ฝันพลี*
ที่แสนว่างงามแสนกระจ่างสงบสุข
ให้..
หยุดทุกข์กับความคิดถึงใดใด..
ไม่อยากมีแม้นใครสักคนเคียงข้าง
ไม่ต้องอ้างว้าง
กับการ..รอรักใครมาเติมเต็ม...


สำหรับ..
ใจดวง..ราวได้ยินเสียงเพลง*เดียวดาย*
ในคลองจิต
ราว..
ใครที่อยู่แสนไกลลิบ
มากระซิบร้องร่ำพร่ำบอก
ท่าม..ฟ้ากว้างเดือนเสี้ยว...
.................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song718.html
เดียวดาย

ขวัญ เอ๋ย
เคยภิรมย์ชิดชื่น สุขสันต์
หลง เพ้อฝัน
รักมั่น มิทันจะเนิ่น
เธอ เมินหมาง
โอ้ อ้างว้างอารมณ์ ฤดี
เหมือนโนรี
จากคอน หลงรังนอน
ลืม พี่ เหมือนชีวี
เดียวดาย เอกา
โอ้ ดึกเดือนคล้อย
เดือนเจ้าจะลอย จากตา
มอง นภายังเห็นดารา
เรียง ราย

เหลียวหา จนทิวาโฉมเจ้า แล หาย
หรือ รักแล้วแหนงหน่าย
รักเอ๋ย ลืมง่าย
ใย เมินเฉย
โอ้ ใจเอ๋ยใจเลย แรมรอน
ฉันยังจำ ติดตา
ทุกทิวาคืนก่อน
เหลืออาวรณ์ใจเอย ค่ำลง
โอ้ ใจสะท้อน
จะหลับจะนอนพะวง
ลืมไม่ลง
มันเหมือนมีมนต์ ดล ใจ...
.........................



ตะแบกคงแบกบานหวานตระการเต็มราวกิ่ง
ก่อนจะพรากลา..
ทิ้งกลีบโปรยปลิดปลิวไปตามสายลม
เมื่อทำหน้าที่บานให้โลกชม ลืมหมอง..แล้ว..
แก้ว..
คงครองขาวพราวนวลไม่นานช้า
แล้วก็เช่นเฉกกัน 
ก็จะพลันโรยร่วง ไร้รอยให้ใครมาหอมดอมชม..


ลั่นทม ชูดอกไร้ระทมดั่งชื่อ 
หากไม่ยึดมั่นถือมั่น
ก็...
แค่ดอกไม้งาม ที่ประดับโลกหวาน
ให้น้อมนำมา...
เปรียบประมาณทุกข์
ยาม...
หัวใจไร้สุขพบขื่นขมตรมตรอม
และ..
หอมเศร้าดั่งเจ้าลั่นทมเทียบ


จำปี..ทีผลิดอกมิมีจำ..
ว่ากี่ปีกี่เดือนกี่วัน
ที่ยังเฝ้าคงมั่นจงรักภักดี
และ
ไม่ยอมจำปี จำเดือนจำวัน 
มีเพียงภักดิ์มั่นเพียงนั้นเพียงนี้


พุดซ้อน..
อรชรอ่อนหวาน
ซ่อนกลีบรานพราวขาวสดสุดสะอาดพิลาสพิไล 
หาก..
ไยชื่อราวกลางกลีบใจมีอะไรซ่อนไว้อย่างล้ำลึก
ให้..
รู้สึกน่าค้นหาตามติด
ราวเสน่หา...คอยมัดจิตมัดใจ
ให้หวนหามิสร่างซา....
และ
ทุก..ดวงดอกไม้พรายพร้อยพราวประดับหล้า
หาก..
ยามใดถึงเวลา..
ก็จำต้องลากิ่งทิ้งต้น..
.อย่างมิอาจฝืนพ้นธรรมชาติธรรมดาๆ
............................................


ผ่านรักผ่านรานผ่านร้าว
ผ่านเศร้าผ่านสุขมิอาจฝืน
ผ่านเวลาติดปีกฝันมิหวนคืน
ถึงจะชื่นถึงจะช้ำวันผ่านไป

อะไรเล่าคงเหลือเมื่อวันพราก
ที่จะฝากประดับโลกให้สวยใส
นอกจากดีนอกจากให้นะดวงใจ
อย่าท้อใจรีบสร้างเสบียงบุญ

ลืมเรื่องราวหนาวรักไร้สาระ
อธิษฐานสัจจะใจหอมกรุ่น
เพียรมิท้อก่อสร้างดี ด้วยละมุน
ตราบโลกหมุนวิปัสสนาพาพ้นกรรม..
...................


และ..
ในท่ามวันที่ฟ้าสีฟ้าสดกระจ่าง
ดวง..
พาร่างไปเดินในท่ามผู้คนอลหม่านนับหมื่น

ไปยืนดูนักดนตรีริมถนน
ที่ใช้มนต์เสียงเพลงเรียกรอยยิ้ม
ไปยืนนิ่งๆฟังเสียงไวโอลิน..พริ้งพราว
ที่..
กำลังบรรเลงครวญคร่ำ*เงาไม้*และ
พาให้ใจดวงสะท้อนสะท้านจิต
ไปกับวันเวลาแห่งชีวิต..
ที่พรากลาไปนานนับหลายปี


ที่ใจดวงนี้..
ได้เพียรฝาก
*บทเพลงอมตะโบราณ*ไว้ในงานมากเรื่องราว
 เพื่อ..
ปลุกวิญญาณแห่งค่าคำอันแสนล้ำล้นเลอค่านั้น
ได้กลับมาสนองเสนอคนรุ่นหลัง 
ที่..
ยังมีพลังใจไฟฝันรักร่ายรจนา
อักษราภาษาไทยอันแสนละไมละมุน


ที่นับวัน...
จะหลงเหลือคนสมาธิมั่น 
ที่ยังพอมีเวลามาพลีแบ่งปัน
มาเททุ่มใจให้รักการอ่านเรื่องราวยาวๆ
เพราะ..
โลกทุกวันนี้
 คลุกเคล้ามากมีเทคโนโลยี่ที่มาป้อนปรน
จนสบายให้รู้สึกเบื่อง่ายกับการทำอะไรนานๆ 


ดวง...เดินเข้าร้านเครื่องแต่งบ้านโบราณ
ที่ผู้คนว่างวาย..
ราวได้ถอยหลังกลับไปในยุคเก่าก่อน
นั่น..
ตั่งไม้...
ที่ในสายใจดวงเห็นหมอนขวานวางไว้
ให้เอนอิงพิงร่าง 
เคียงข้างด้วยเชี่ยนหมากทองเหลือง
ไม่ก็ลายฉลุเงินงาม..


โน่นบุษบกทองคำ 
ภายในมีองค์พระพุทธรูปสุกปลั่งมลังเมลือง
ให้..ดูแสนอลังการในงานแกะสลักเสลา
เพรางามด้วยพลังศรัทธาปสาทะ

นั่น ระฆังแขวนไว้ 
ราวให้รำลึกนึกไปถึงโบสถ์คร่ำในวัดบ้านป่า
ที่..
พระสงฆ์ในจีวร งามแจ่มจ้า
กำลัง ลงโบสถ์ทำวัตรในยามค่ำ
ให้..
จรัสรัศมีสีทองอันสว่างไสวนั้น
 ราวเส้นทางนำพาจิตวิญญาณ
ให้ผ่านภพภูมิแห่งทุกขเวทนา 
อย่าได้วนมารับวิบากกรรมอีกเลย


ดวง...ยืนนิ่งงัน 
กับมากสิ่งอันพันละเล็กละน้อย
ที่..
พาให้ใจดวง
ถอยหลังโหยหาเงางามในบุพกาลก่อน
ใจดวงอรชร ราวมีน้ำตาปิติล้นหลั่ง
ยามดวงใจ...
ได้อบร่ำ
ด้วยกลิ่นไออวลแห่งนวลเนาในอดีตนั้น


ดวงได้..เสื้อผ้าไหมดีไซน์เก๋
ที่ใส่ได้สองด้าน
มีสีเขียวไพลและสีดำ 
และ..
ยามใส่นั้นคงจะงามล้ำหากเกล้าผมสูงสวย
แล้ว..
เสียบแซม
ด้วยดวงดอกไม้ไทยไทยในวันมงคลงาน


กับ
ได้เชิงเทียน ที่มีสองอันในโลก
เพราะเป็นงานไม้ไผ่สาน
มาทดลองวางขายดูในตลาด
ที่ใจดวงเกิดพิสวาทและได้มา


กับได้
ดวงดอกกล้วยไม้งามแจ่มจ้า 
บัวหลากสีมาพลีตระการ
ให้..
วิมานดินวิมานดวง... ได้ประดับ
และ....
ให้กับ...
ใจดวงนี้ที่ยังรัก....ความ
ดายเดียวเดียวดายตลอดกาลนานนิรันดร์....!
.....................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song591.html
ฝากหมอน...

คืน วัน นี้
ถ้า พี่ นอน หนุน หมอน น้อย
ใจ จง คล้อย
คิด ถึง น้อง เจ้า ของ หมอน
รอย แก้ม นิ่ม
ริม เขนย น้อง เคย นอน
หนาว หรือ ร้อน
หมอน คง เอื้อ อุ่น เจือ จุน
น้อง เคลีย แก้ม
ฝาก ไว้ ก่อน ให้ พี่
ซ้ำ กราบ ที่ กลาง หมอน
เคย นอน หนุน
ยาม พี่ แนบ หน้า นอน
หมอน ละมุน
จง หอม กรุ่น
แก้ม และ กราบ กำ ซาบ ทรวง

น้อง เคลีย แก้ม
ฝาก ไว้ ก่อน ให้ พี่
ซ้ำ กราบ ที่ กลาง หมอน
เคย นอน หนุน
ยาม พี่ แนบ หน้า นอน
หมอน ละมุน
จง หอม กรุ่น
แก้ม และ กราบ กำ ซาบ ทรวง...
.............
				
17 กรกฎาคม 2552 14:06 น.

คืนนี้...ไม่มีพระจันทร์...!

พุด


คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
มีเพียงขวัญเพียงฝนหล่น
เงียบงันกลางกมล
หนาวเสียจนใจชาชิน

แลเห็นโลกย์เพียงโศกรอ
ทุกข์ทนท้อมิรู้สิ้น
มากชนบนผืนดิน
ทั่วไทถิ่นรอหวังใด

โรคซ้ำทั้งกรรมซัด
ภัยพิบัติน้ำหลากไหล
วิบากพสุธาฤาว่าไร
วิปโยคใจเกินรำพัน

ห่วงเอยห่วงที่รัก
ไกลกันนักสุดฟ้าฝัน
รอคอยเพียงคืนวัน
มิพรากกันนิรันดร...!
..................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song973.html
ดวงใจในฝัน 

รำพึงรำพัน ฝันรัก รักเอยใฝ่หา
ยังจำติดตาชวนปลื้ม ฉันลืมไม่ลง
เป็นรอยพิศวาส ปักใจมั่นคง
ฝังใจพะวง หลงรอคอย
อาวรณ์ใจครวญ หวนคิด คิดจนพร่ำเพ้อ
พาใจละเมอหมองหม่น คิดจนเลื่อนลอย
ยามนอน ถอนสะอื้น ตื่นตาแลคอย
คิดจนดาวลอย คล้อยเมฆา
ฝันกอดเชยชม ภิรมย์รื่น พี่ชื่นตื่นผวา
จนใจ ไม่มีใครเมตตา
เพียงนิทรา นิจจานึกว่าสุขเอ๋ย
บางคืนมองจันทร์หรรษา นิจจาอกฉัน
บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า น้ำตาหลั่งเลย
ลมเอยพริ้วยังแผ่ว ไม่มีแววเลย
เหงาใจจริงเอย หลงเชยแต่เงา

บางคืนมองจันทร์หรรษา
นิจจาอกฉัน
บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า
น้ำตาหลั่งเลย
ลมเอยพริ้วยังแผ่ว
ไม่มีแววเลย
เหงาใจจริงเอย
หลงเชยแต่เงา... 
 
				
16 กรกฎาคม 2552 17:49 น.

รอ..เธอมาเยือน...ในเรือนใจ....!

พุด


ขวัญยังรอตรงนี้ ณ ที่เก่า
ในร่มเงาเรือนรักเรือนแห่งฝัน
เรือนดอกไม้หอมนานาพันธุ์
เรือนหวานจันทร์ปันรักได้พักใจ

ดูเดียวดายเรือนไม้โบราณร่ำ
ที่ชื่นฉ่ำด้วยธรรมชาติพิสุทธิ์ใส
รายรอบเรือนล้อมด้วยบัวบังใบ
แลลงไปเห็นหมู่มัจฉามาว่ายวน

ยามราตรีได้กลิ่นสุคนธา
จำปีจำปากระดังงาอวลลมฝน
ทั้งพุดซ้อนโมกอรชรรสสุคนธ์
ให้กมลละมุนกรุ่นกำจาย

นี่คือเรือนงามใจไกลสับสน
ห่างผู้คนวนว่ายไร้จุดหมาย
กับกิเลสมากมีรอทำลาย
ก่อนจะสายยังหมายรอเธอ..ผู้มาเยือน...!
.........................


เธอมาเยือน

เธอมาเยือน..
เหมือนสายฝนพรำผิดฤดู
เหมือนฝันที่ค้างอยู่
เหมือนรู้ทั้งรู้แค่ฝันไป..

เธอมาเยือน...
เหมือนสายลมพัดหวั่นไหว
เหมือนเรียวรุ้งโค้งฟ้าไกล
เหมือนรอยยิ้มแต้มใจทุกทุกวัน...

เธอมาเยือน..
เหมือนทุ่งดอกไม้แห่งความฝัน
เหมือนโลกนี้ละออเกินจำนรรจ์
เหมือนสวรรค์เยือนหล้ากระจ่างใจ....

เธอมาเยือน..
เหมือนเพื่อนเหมือนดอกไม้ตระการไหว
เหมือนจันทร์เสี้ยวลบเศร้าสุขเกินใด
เหมือนแมกไม้ไพรไหวกิ่งฝันมอบวันงาม..
.............

ทุกแห่งหน...

ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..

ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตา
(ในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!
......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html
ณ.วันนี้ ...ละครทีวี เรือนมยุรา 

ญ... ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น
นานแสนนาน ฮืม
จึงมาเจอกัน
คล้ายบางสิ่งผูกพัน
ร้อยใจเราร่วมกัน
ช... ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น
นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน
ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา
ช... ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ.... หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช.... รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ.... คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม... นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป

ช.... ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ.... หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช.... รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ... คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม.... นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป... 
 
				
14 กรกฎาคม 2552 11:23 น.

เสียงกระซิบ...จากหัวใจ...!(can you hear my heart)

พุด


ขวัญเชื่อเรื่องความดี
มิ่งมณีมงคลแห่งชีวิต
คือพรอันศักดิ์สิทธิ์
คือลิขิตสู่ทางทองของพระองค์

ขวัญเชื่อเรื่องเมตตา
กรุณาปรานีอันสูงส่ง
แม้นปิดทองหลังพระไม่พะวง
ซื่อตรงต่อดวงจิตชีวิตวัน

ขวัญเชื่อเรื่องอ่อนน้อม
พลีพร้อมดวงใจมิไหวหวั่น
ให้อภัยแม้นใครจะเหยียดหยัน
ทุกสิ่งนั้นสำคัญที่ใจ

ขวัญเชื่อเรื่องเนื้อแท้
แน่วแน่แลทะลุสิ้นสงสัย
เห็นอัญมณีณ ภายใน
แม้บางใครยึดเปลือกนอกหลอกตา

ขวัญเชื่อเรื่องบุญกุศล
ตามรอยพระองค์สู่แดนฟ้า
เชื่อเรื่องภพภูมิกัปป์กาลเวลา
ศรัทธาคงมั่นนิรันดร....!
................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
หนึ่งในร้อย 

พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย

รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง... 
 
				
13 กรกฎาคม 2552 12:57 น.

นารี...!

พุด


ผลิช่อจากกอกิ่ง
เป็นมิ่งมณีศรีหล้า
หอมชื่นสุคนธา
ภิรมย์ปรารถนาภู่ผึ้งภุมรินทร์

ประดับโลกนี้ให้สวยแจ่ม
แตะแต้มภมรสอนถวิล
สืบทอดงามให้ผืนดิน
มิสิ้นสุนทรีย์มายา

ละมุนละเมียดอรชร
อ่อนหวานอ่อนไหวเสน่หา
น้ำผึ้งพิษฤาอมฤตธารา
สุดแต่ใจจะไขว่คว้ามาลี

ดับแล้งไร้หมายเพาะเมล็ดฝัน
เผ่าพันธุ์ดำรงรักศักดิ์ศรี
ในท่ามนิยามหอมความดี
คือสตรีประโลมหล้าฟ้าประทาน....!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song312.html
นารี 

อนิจจา นา รี นี่แสน แปลก
อาจจำแนก เป็นอะไร ได้หลาย อย่าง
เป็นนางฟ้า น่า โลม โฉมสำอางค์
เป็นน้อง นาง เนื้อ อ่อน ให้หอม ชุ่ม

เป็นมารดา ของมนุษย์ สุดสรรเสริญ 
เป็นหงส์ เหิร ผยอง อยู่ ดูไม่สม 
เป็นงูพิษ เป็นมิตรแท้ และมีด คม
เหลือ จะกล่าว เคล้า จะชม นารีเอย


เป็นมารดา ของมนุษย์ สุดสรรเสริญ
เป็นหงส์ เหิร ผยอง อยู่ ดูไม่สม 
เป็นงูพิษ เป็นมิตรแท้ และมีด คม
เหลือจะกล่าว เคล้าจะชม นา รี เอย... 
 
  				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด