22 กุมภาพันธ์ 2551 09:29 น.

สุริยา..พรากฟ้า..เพ็ญนภา..พรายนวล...!

พุด

CoucherSoleilMer.jpgsunset.jpgsunset%20at%20sea.jpg94-1-1078874009.jpg
นอนนิ่งนิ่งดูดวงสุริยาลาลับฟ้า
ริมทะเลเหว่ว้าราวภาพฝัน
งามกว่างามเกินหาคำมารำพัน
แสงตะวันดั่งสีทองอาบท้องน้ำ

หากมีอกใครสักคนให้ซุกซบ
คงจะลบเลือนหนาวทุกเช้าค่ำ
คงสิ้นโศกโลกดายเดียวแลมืดดำ
คงมิต้องร่ำสายน้ำตาณ กลางใจ

หากมีเพียงดวงจิตที่เปลี่ยวร้าง
อ้างว้างเสมอมายามไหนไหน
มาลำพังไปลำพังรู้ทำใจ
ไม่เป็นไรธรรมดาโลกย์รู้โศกทัน

จึ่งพบสงบสว่าง ณ กลางจิต
เพียงน้อยนิดหนึ่งลมหายใจมายาฝัน
ดั่งหยาดน้ำค้างยามกระทบแสงตะวัน
แล้วก็พลันหายวับไปกับลม....!




วันเพ็ญพูนดวง
เช้าไปใส่บาตร 
หลอมรวมจิตกับมิ่งมิตรกวีสายน้ำรักนิรันดร์
ฟังธรรม..ณ ลานหินโค้ง
ตะวันโด่งไปเดินงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์
สายไม่ยอมแพ้ไปกราบอธิษฐานจิตเบื้อง
พระพักตร์หลวงพ่อโสธร งามสุกปลั่ง
พร้อมทั้งเวียนเทียนรอบองค์ท่าน

ยามเย็นตะวันรอน
ไปนั่งอรชรทอดตา
ดูดวงอาทิตย์อ้อนอำลาทะเลแถวอ่างศิลา
ดูฟ้ายามโพล้เพล้ เห็นเหว่ว้าของภาพเรือที่กำลังคืนฝั่ง
เห็นท่าเรือเงียบงันรอรับร่างพรานทะเล
เห็นมนตรายามดวงสุริยา
สาดแสงสีทองส่องทาบทาท้องน้ำให้งามจรัส 
เห็นตะวันดวงสุกชัดแดงจัด 
ค่อยๆทิ้งตัวเคลียม่านหมอกสีเทาอ่อน 
ค่อยๆจรจากพรากลา
เหลือไว้เพียงนวลนภา
อันงามเกินกว่าหาถ้อยคำมาบรรยาย

แล้วได้ฤกษ์มงคลวิถีปุรณมีมาฆบูชา
เข้าโบสถ์ไปฟังพระเทศนา ให้รำลึกซึ้งค่า
ที่ได้เกิดมา..
ในร่มรัตน์ฉัตรธรรม
ในแผ่นดินพุทธภูมิอันล้ำค่า 

ได้รู้ว่าหนึ่งชีพนิดหนึ่งน้อยนี้นั้น
แค่เพียรทำความดี
ละเว้นความชั่ว
ทำจิตให้ผ่องแผ้วมิหมองมัว
ก็งดงามแล้ว

ประดุจดั่งบัวแพรวพิสุทธิ์ผุดพ้นเหนือโคลนตม
และเพียรเพาะบ่มพัฒนาให้ดวงชีวาชีวิตนั้น
พ้นพันธนา มายารัก โลภ โกรธ หลง
รู้ปลงปลดปล่อย มิท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ดีที่ควร
จวบจนกว่า....
วันหนึ่งไม่นานช้า 
ดวงชีวาเราก็จักลาลับดับไปดั่งดวงตะวัน...!

................................................................



Purrrfect_Sunset_at_Sea.jpg71%20Sunset%20in%20Sweden.jpg_41854086_1.jpg				
20 กุมภาพันธ์ 2551 10:49 น.

ตำนานขวัญ..วันอภิรมย์ ....!

พุด

3-1060-84718TYcx_w.jpg3-1060-ava%20aaa.jpg3-1060-Ava_Gardner.jpg
ยามเช้าเฝ้าดูอรุณรุ่ง
รัศมีรุ้งพร่างพรายแสง
สุริยาอวดแก้มแดง
สร้างแรงใจต่อไฟฝันวันสองเรา

หลับตาอีกสักนิดนะที่รัก
แล้วพิงพักในอ้อมใจจักไม่เหงา
หลอมรวมจิตสนิทแนบตราบนานเนา
ในเงื้อมเงาสร้างโลกงามนิยามดี

ลมหายใจไออุ่นหวังโอบเอื้อ
พลีเลือดเนื้อพลีภักดิ์แลศักดิ์ศรี
สง่างามทุกก้าวย่างสร้างชีวี
นับต่อนี้จักไม่หนาวเศร้าลำพัง

รับฟ้าใหม่ด้วยใจดวงผ่องแผ้ว
ราวกับแก้วประภัสสรมิรอนหวัง
หอมแก้มอิ่มยิ้มรับโลกสร้างรวงรัง
รวมพลังแห่งรักนี้พลีฝากไว้ดั่งตำนาน....!

...................................................


3-1060-ava-barret2.jpg3-1060-ava%20two(1).jpg				
17 กุมภาพันธ์ 2551 10:48 น.

Broken Wings Angel....!

พุด

normal_%C2%A9Josephine_Wall_Mer_angel_%C
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song287.html

เดียวดายหนาวล้ำลึก
ในรู้สึกเงียบงามเหงา
ทุกคืนค่ำมานานเนา
คือตัวเราเพียงลำพัง

เส้นทางอ้างว้างนัก
ไร้ใครภักดิ์สิ้นที่หวัง
ซุกซบในรวงรัง
ยามเซซังลบแผลใจ

จะกี่ปีจะกี่วัน
มายาฝันวันไหนไหน
พันธนามัดดวงใจ
แล้วพรากไกลไม่หวนคืน

คือโลกวิปโยคแท้
ไร้ใดแน่ยากจะฝืน
เพียงฝันไร้วันชื่น
พอยามตื่นก็หายวับ....


pritty6.gif3-1066-ca31.jpgพิกุลแกมแก้มนวล!!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song287.html

ดอกพิกุลพร่างพรมลมริ้วร่วง
พราวดอกดวงห่มพื้นพรายพรากเพลงฝัน
สิ้นภมรเชยบุหงาลดาวัลย์
ดอกสวรรค์ลาหวานกิ่งทิ้งต้นใจ..

นั่นดอกพุด หยุดรักแล้ว.ละสิหนอ
บานคากอพ้อคนเก็บมิรอไหว
หอมคาต้นชูช่อรอคนไกล
เด็ดดมใจดูดดื่มฝันวันเคล้าทรวง..

หอมลุ่มลึกนวลจำปีคลี่กลีบค้าง
กระดังงาร้างไร้ไฟลนคนเคยหวง
การะเวกไหวหวั่นกอพ้อกลีบร่วง
ลดาดวงแตกดอกฉ่ำร่ำหาใคร

ในเรือนไทยที่เอนกายหมายหลับฝัน
เด็ดลดาวัลย์โลมลูบจูบกลีบไหว
รักดอกโน้นหวงดอกนี้สับสนใจ
ปล่อยดอกใจบานคาต้นหนทางเดียว!
..........................................................


บันดาลใจจากนอนมองดอกพิกุลร่วงพรายพร่างควะคว้าง..ควะคว้าง
ราวดวงดอกฝนสีทองตกต้องกลางดวงใจ
ที่บ้านเรือนไทยโบราณ..
ดอกดวงใจอ่อนหวานจึงผุดซ่านเต็มซึ้งใจ..ในวันวสันต์โปรย..
ฝากกระซิบคนดี..คิดถึง..และคิดถึง.
พิกุลแกมแก้มหอมนวล..นานเนา..ในนึกลึกล้ำ!.

......................................................................




3-1066-1739_3.JPGเพราะขอบฟ้ากว้าง!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song169.html

วสันตฤดู หมองหม่น กับหยาดฝนพรำ กำลังจะผันผ่านไป.
ฤดูเขียวขจีสลับทองของพืชพรรณ กำลัง จะกลับมา..
ค่ำคืนนี้..แลลอดไปไม่เห็นจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า...
ลอยแขวน เพราะเมฆหม่นบดบัง

ฉันเขียนเรื่องนี้..ในเต็นท์ ด้วยไฟฉาย 
เพราะอยากได้อารมณ์หนึ่ง...ให้หวนคืนกลับมา..
อารมณ์ฝันวันเยาว์....

ที่มองโลกเศร้าว่ายังงดงามและแสนดี..
ที่มีแต่เสียงหัวเราะ..เริงร่า..แสนไกลกังวล!
แหงนดู งามของท้องฟ้าจากช่องหลังคา 
มีแต่ดาวราย พรายฟ้า..กับแสงพริบพริบจากเครื่องบิน
ที่บินผ่านมา 
จนอยากโบกมือขอให้แวะมารับไปเมืองไกล ด้วยคน                      
ที่ซึ่งมีคนดี..ที่แสนรักเอยแสนรักในกมล....เฝ้ารออยู่...
แปลกดีไหม!....ที่ฉันชอบทำอะไรแปลกๆ...
ให้กับชีวิตชาวกรงที่มันซ้ำซากจำเจ..จำใจ
เพื่อสร้างไฟฝัน..วันแสนงามให้กับชีวิต..

มีห้องแอร์เย็นฉ่ำ กลับไม่นอน 
มานอนในเต็นท์ ที่ร้อนราวตู้อบซาวน่า..ไม่มีผิด..
คิดในทางบวก..
บางทีคืนนี้อาจจะทำให้ฉันผอมสวยยิ่งขึ้นไปอีกน่านะ.
เป็นของแถมแกล้มอารมณ์โรแมนติกไง..

ใกล้โพล้เพล้...ฉันเริ่มจุดเทียน..
ธูปหอมกลิ่นหวานเศร้า รายรอบ... 
เป็นพิธีกรรมให้แสงเงางามล้ำ..

ปักโคมไม้ไผ่สานตามมุมต่างๆ..
แล้วใช้ไฟฉายแบบวางพื้นได้ฉายสาดแสงสวย
ขึ้นสู่ยอดหมากแดงประดับลำต้นงาม..ให้สว่างวับแวม
 
เกิดลายสวยใบสานระยับระยิบ 
พรายตา อ่อนละมุนละมู..(ถาษาสวยของใจฉันเอง)...

ที่แลงามเห็นยามนี้ที่มีมนต์ขลัง..
กับใจดวงนี้ที่หวานละมูละไม...(เป็นไงกันนะ อารมรณ์นี้)
แสนโรมานซ์อยู่ล้ำลึก..ลึกล้ำ..ใครหนอจะเข้าใจ!......
ถ้ามองไม่ถึงงาม..ตามกัน..

ลั่นทมแดง..ชมพู..เหลือง..อวดดอกแดงแฉล้มหวาน..
แต่ดูไม่แฝงความเศร้าระทม ตรอมตรมหัวใจ..                       
 ตามไปกับใจเจ้าของ....

หางนกยูง..หรุบใบ...แสนงอน อ้อนหยาดน้ำค้าง...
ดอกแดงกระจิดจึ๋วชูช่อ..
พิศมัยใกล้ๆจะเห็นงามในเสน่ห์แดงดอก...ดวงดอกหลายๆดอกดวง 
รวมกันก่อเกิดจากก้าน กิ่ง..แฉกใบ งามเฉิด..

กุหลาบแดง..แห่งรักในใจ ฉัน
ที่บานซ้ำบานซาก บานแล้วบานเล่า นานปี 
จนวันนี้ที่ใกล้ราโรยไร้ต้น

แต่กุหลาบจริง..แดงโดด ชมพูส้ม 
บนระเบียงกลับตูมตั้ง อวดดอกเด่น..
ผ่านแดด ผ่านฝน ผ่านพ้นฤดูกาล
ที่แปรเปลี่ยน คลุกเคล้า หนาวร้อน อย่างไม่รอรา..
มาออกดอกหอมขจรให้ดอมดม...

คืนนี้..บรรยากาศ..เป็นใจ 
ให้ใจดวงนี้ มีฝัน มีจินตนาการหวานหวาน
เขียนเรื่องราวแกล้มหอมมวลหมู่พยอม
นานาพรรณแรกแย้ม กับฟากฟ้าราตรีกาล 

ที่มีดวงดาวใสสวยสุกปลั่ง ประดับฟ้า ประดับใจนี้    ปลอบหมองหม่น...
คิดถึง..ฝนดาว...
แค่ฟังชื่อแล้วอยากพบอยากเห็นจังเลย...
อยากไปนอนนับดาวฝนพราวพรายพรูพร่างพันพันดวง..
ให้สว่างคาตา กับคนดีที่รัก.บนเงื้อมผาที่เกาะเต่า.

คงได้อารมณ์รักมากกว่าเศร้ามากกว่านับดาวเป็นหมื่นเป็นพันดวงซะอีก....

หลับตา...พักใจ..นิ่งๆ..นานนาที....
ให้เงียบงาม ของราตรีนี้ เรื่อยริน  
ไหลๆ ไหวๆ หวานหวาม เข้ามาสู่ใจดวงน้อยน้อย...
อวลละเมียดละมุนกลิ่นหอม ของจำปี  
พุดสามสี และการะเวกที่เผยอแย้มบานคลี่ อ้อน  
รับหวานหยาดจากหยดน้ำค้าง พรม........
ดวงใจฉันชื่นฉ่ำ..พอกันเพราะได้รับหวานล้ำจาก..
น้ำคำ น้ำใจ ของใครบางคนมาประโลม..

ให้โลกฝัน แย้มงาม หอมหวาน 
พร้อมกันไปกับมวลดอกไม้งามในยามค่ำ...

ความสุข..นี้หนา..มามา..จากจาก..พลัดๆพรากๆ วนเวียน..มิรู้จบ..มิรู้สิ้น...
เพื่อให้เราเรียนรู้..ดูโลกให้เป็น..ในบางบทตอนมีสอนใจ...

ดั่งเฉกเช่น..ชีวิตมนุษย์นับพันๆล้าน ..
ที่กำลังขวัญเสีย ที่กำลังดิ้นรน ผจญต่อสู้..
บางซีกโลก ค่ำคืนนี้ อาจจะเป็นค่ำคืนโหดร้าย 
อยู่กับสงครามแห่งความกลัว...ภายในใจ..
และมนุษย์อีกมากมี..ที่กำลังไร้รัก ไร้หวัง ไร้บ้าน 
ไร้แขนขา และที่ร้ายที่สุดคือ เด็กๆที่ไร้อาหาร
กำลังจะอดตายในแคมป์ผู้หนีภัยสงคราม..
ใจหนอใจเหตุใด ใจคนจึงร้ายถึงเพียงนี้..

บทความนี้..จากชีวี..ผู้หญิงคนหนึ่ง..
ในแผ่นดินนี้ แผ่นดินของเรา ที่ยังเป็นแผ่นดินทอง..ให้หยัดยืน
ที่ยังมีธรรมชาติงามให้สู้ฝัน มีหวังให้หวังมิรู้สิ้น..มีอิสระเสรี มีความรัก......          

มีเส้นทางสีขาวจากศาสนา มีธรรมมะสอนใจ 
มีพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ทอง   
คุ้มผองภัย ให้พสกนิกรได้อยู่เย็น.....

นี่คือโชคดี..ที่นำมาเตือนมาสอนใจ 
ใครทุกคนรวมทั้งตัวเอง ยามนี้ที่โลกเร่าร้อนรุนแรง

โลกแห่งความจริงนั้นแสนสวยงาม   
ถ้ามิใช่ด้วยเงื้อมมือมนุษย์..ต่ำทราม โหดร้าย 
ทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง..
ให้หมดสิ้นหวัง...แสนเศร้าสะเทือนใจ           
โดยมิเคยหยุดทบทวนไตร่ตรอง...จุดจบ..
ใจเอ๋ยใจคน..ช่างหมุนวน สรรสร้าง..แล้วทำลาย..ราวไร้ใจ....


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song169.html

เพราะขอบฟ้ากว้าง ........  กุ้ง กิตติคุณ เธียรสงค์ 

ป่านนี้แก้วตา นิจจาคอยพี่
โอ้ป่านฉะนี้ คนดีคงทุกข์โศกตรม
คิดถึงคืนวัน ที่สองเรานั้นรื่นรมย์
ต่างชื่น ต่างชม ภิรมย์รักกันมา

บัดนี้พี่ยัง รักเธอไม่หน่าย
สู้อยู่เดียวดาย ไม่คลายความรักแก้วตา
รสรักยังตรึง ซาบซึ้งแน่นดวงวิญญา
ขอเพียงแก้วตา สัญญาไม่เปลี่ยนใจ

แต่เรานี้ต้องอยู่ห่างกัน 
ต่างคนต่างฝันต่างคนตื้นตันทรวงใน
เห็นดารา นึกว่าเนตรน้องพี่หลงพี่จ้อง มองไป
เห็นเงากิ่งไทร พี่ยังเคลิ้มไป ว่ากานดา

อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย

อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย. 


3-1066-vivien%208.jpg				
16 กุมภาพันธ์ 2551 11:58 น.

เหนือนิรมิต..!

พุด

wedding_day.jpgWeddingDay.JPG7788_Wedding_Day_Rose_and_Dove_Blackburnimage002.jpg
ทะเลดาวในคืนแรมช่างงามล้ำ
กับเกลียวคลื่นที่กระซิบฝั่งราวฝากรัก

จันทร์อรชรซ่อนดวงอายเอียงในม่านเมฆ

จิตผม..พบวิเวกกับทุกสรรพสิ่งรายรอบ
ให้หัวใจผมที่เคยบอบช้ำ
ระกำร่ำไห้อยู่ ณ ภายในได้คลายหมอง

ในครองตาคือความเงียบงามแห่งทะเลจันทร์
ที่กำลังทอแสงสาดส่องเหนือท้องน้ำราวทองทาบ

ฟ้าระดะด้วยมวลหมู่ดาว
ทิวมะพร้าวซัดส่ายร่ายระบำบทเพลง
แห่งความหฤหรรษ์สุนทรีย์รมย์

สายลมครวญ..วอน..ออดอ้อนฟ้าแลดิน
ให้รับฟัง..
ถึงรักมิรู้สิ้นรู้จบทบทวีที่มวลมนุษย์พลีฝากคำ

ในราตรี 
ที่ทั้งหล้าโลกเฉลิมฉลองวันแห่งความดื่มด่ำ
วันแห่งความรัก
อันคือวันศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดุจดั่งจักนิรมิตทุกสรรพสิ่ง
ให้ยังคงมีพลังสรรสร้าง ให้โลกงามยังคงหมุนไป
สู่..
ความละเมียดละไม สมานฉันท์ 
สู่ความหวังความฝันอันแสนยิ่งใหญ่
ของมวลมนุษยชาติ
ที่จัก..
ยังคง..ธำรง..ดำรง
ใจดวงคุณธรรม..อันงดงามล้ำค่า
อันอุ่นเอื้อ เมตตา ปรารถนาดี 
เพื่อ..พลีแด่กันและกัน...ไปตราบกาล...!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6192.html
ความฝันอันสูงสุด บทเพลงพระราชนิพนธ์ 

ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ
ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว
ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ
ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง
จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด
จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง
จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
ไม่ท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร
ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา
ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา
ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป
นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง
หมายผดุง ยุติธรรม อันสดใส
ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด
ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน
โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่
เพราะมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน
ยังคงหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ
ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย 


main_wedding_rates.jpginlighten.jpgmousoumi-gogol-wedding-day.jpg				
14 กุมภาพันธ์ 2551 09:57 น.

The Legend of Love...!

พุด

19049.jpg4-1088-gk4.jpg
พลีภักดิ์แด่เธอคนดีที่รัก
นานนักเฝ้าฝันวันเราสอง
หากใจดวงงามดวงนี้คงครอง
เพียงปองปาฏิหารย์รักผ่านภพ

จักจำพรากจากลาฤาว่าอยู่
เรารับรู้จิตหลอมรวมมิรู้จบ
กี่กัปป์กาลนานเนามิเลือนลบ
และจะทบทวีตราบนี้นิรันดร์

วันเดือนปีก็แค่จำนวนนับ
คงรอรับยอดชีวีมาสู่ขวัญ
สู่วิมานดารารายวิมานจันทร์
สู่เส้นทางสวรรค์ทางสายรุ้ง

ถวายมาลัยดอกรักร้อยสร้อยเสน่หา
แทนศรัทธาหมายรออรุณรุ่ง
สร้างกุศลให้อัญมณีใจงามจรัสจรุง
จิตหมายมุ่งสู่แดนปาริชาติหมายมาดรอ...!

....................................................


KwanKongVunVan.jpg

..................................................

V261910.jpgเพียง..สองเรา..!


ตะวันสีไพลดวงนวลกำลังลอยระเรี่ย
เหนือทิวไผ่กอเป็นทิวแถว 

แสงแดดสีทองอ่อนอุ่น
กำลังทอดไล้โลมดงหญ้าแลยอดไม้ไสวในสวนผลไม้
ที่แน่นขนัดหลากพันธุ์ 

ฟ้าใกล้ค่ำแล้ว นกกาเริ่มส่งเสียงร้องระงม
ผกโผผินบินกลับรัง 

เดือนดาวรอเวลาระดะฟ้า
เพื่อปลอบขวัญหล้า ในท่ามราตรี
มิให้มวลมนุษย์ดายเดียวเหว่ว้าจนเกินไป


เรา..หมายถึงคุณกับผมกำลังอยู่ในรถ
ที่ราวกับนกเหล็กวิ่งฉิวปลิวลมไป
ในเส้นทางสายธรรมชาติ ที่ดูแสนสงบสุขเงียบงาม

ในท่าม..
แสงฟ้าสีส้มอมชมพูเจือทองผ่องประกายจรัสเจรือง
ให้แสนประเทืองประทับใจ


ผม...อดใจไม่ได้..เลยฮัมบทเพลงแสนหวาน
หาก..
เป็นเพลงโบราณ ที่เรากำลังฝึกร้องคู่กัน
หวัง..จักมีสักวัน สักเวทีฝันให้เราได้ทดสอบเสียง
เพียงเพื่อให้ได้ร้องระบายด้วยความสุข  เสมอใจ


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song28.html
ใต้ร่มมลุลี 

ญ...โอมมลุลี ร่ม นี้ มืด มน
ช้ำเหลือทน อับ จน หัว ใจ
ต้อง พราก รัก ไป ภาย ใต้ ร่ม ไม้
ของ เจ้า นี้
ช...ลืมรักที่หลั่ง ลง ฝัง กับใจ
ฝังฝากให้ ใต้ ร่ม มลุลี
จง ลืม รัก พี่ อย่ามีฤดี อาลัย ต่อกัน
ญ...ยาก เย็น กรรมหรือเวรอันใด
นำ ชัก ให้ ดวงฤทัยโศกศัลย์
ช...พี่ ตรม สุดภิรมย์รำพัน
บุญไม่เปรียบเทียบทัน ร้าว ราน ฤทัย
ญ...โอ้รักที่ผ่าน ดัง ฝัน ชั่ว คืน
ครั้นพอตื่น กลับ คืน หาย ไป
ช...โธ่ อย่า ร้อง ไห้
พลอยให้ดวงใจ ร้าวระทม
ญ...ยาก เย็น กรรมหรือเวรอันใด
นำ ชัก ให้ ดวงฤทัยโศกศัลย์
ช...พี่ ตรม สุดภิรมย์รำพัน
บุญไม่เปรียบเทียบทัน ร้าว ราน ฤทัย
ช...โอ้รักที่ผ่าน ดัง ฝัน ชั่ว คืน
ญ...ครั้นพอตื่น กลับ คืน หายไป
ช...โธ่ อย่า ร้อง ไห้
พลอย ให้ ดวง ใจ ร้าวระทม
ช-ญ....ร่มมลุลี เป็นที่ สุดท้าย
แห่งจุดหมาย น้อง พี่
มลุลี เห็น ใจ น้อง พี่
ว่าสิ้นคืนนี้ น้อง พี่ สิ้น กัน... 
 



สิ้นเสียงเพลงตามมาด้วยเสียงหัวเราะเริงร่า
ที่เราทั้งสองต่างพากันหลงลืมเนื้อหาบทเพลง
และต่างพากันดำน้ำ จนจบได้อย่างทุลักทุเล


ผม...เอียงแก้มบุ๋มแบบพระเอกหนังฝรั่ง
ให้คุณหอม หอม หอม เป็นระยะ 
ด้วยแสนพิสวาทเสน่หาจนยากหักห้ามใจ
เมื่อเหลียวเห็น
หน้านวลใสใสในสายแสงตะวันระเรื่อๆราวนางไม้


เป็น..ความสุข สงบ 
ที่ยากจักจารจบใจ..รำพึงรำพัน
ถึงฝันดี ฝันงาม ในท่ามโลกแล้งไร้ใบนี้
ที่ยังคงมี...
ความสุขเล็กๆเรียบง่ายนี้
ที่แสนหาง่าย..

แค่..
เพียงได้ใช้ชีวีชีวิต
ชิดใกล้กับผู้เป็นที่รักแสนรักแสนภักดิ์พลี 

เคียงร่างเคียงกมล...กับ..คนดียอดดวงหฤทัย

มีเพียงเราสอง  สองเรา...

ไปตราบ....

ชั่วกาลนานเนานิจนิรันดร์..เท่านั้น..ก็เกินพอ...!

..................


V264672.jpgV256451_CROP1.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด