11 สิงหาคม 2547 17:50 น.

คืนเดือนเสี้ยวทองคำวันแรมลาร่มรัก!!

พุด


url http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=359
(ไกลบ้าน)
*********

คืนเดือนเสี้ยวเคียวทองส่องโศกฟ้า
พุดพัดชาลาพรากไกลใจโศกศัลย์
ฝากร่มรักเรือนทองใต้เงาจันทร์
ฝากใจขวัญไว้ที่นี่..นะที่รัก!

ฝากคิดถึงซึ้งเศร้ากับหนาวฝน
ฝากกมลดายเดียวเปล่าเปลี่ยวนัก
ฝากน้ำผึ้งฝันจันทร์ดวงหวานผ่านทายทัก
ฝากลมรักโอบอกอุ่นละมุนละไม..

ฝากน้ำใจใสพร่างน้ำค้างแก้ว
วะวับแวววะวับวาวพราวพร่างใส
ให้รินหวานพร่างพรมห่มหอมใจ
ให้สดใสราวดวงดอกไม้ใกล้แย้มบาน

ดวงดอกพุดพิสุทธิ์ใจกลีบไหวอ่อน
เพียงมาอ้อนฝากใจละไมหวาน
เคียงคู่ขวัญวันยาวไกลไปแสนนาน
เหมือนจันทร์หวานหยาดน้ำผึ้งซึ้งสุขใจ

ถ้าหัวใจเราตรงกันฝันคิดถึง
เติมรักซึ้งข้ามขอบฟ้ามาชิดใกล้
นับวันรอคืนหลังฝังใจกาย
สวาทหมายได้กระซิบพร่ำย้ำสัญญา

ถึงเสียใจเสียขวัญในวันนี้
ดวงชีวียังกระจ่างพร่างห่วงหา
ยังตราตรึงซึ้งสิ่งดีปีผ่านมา
ลบเหว่ว้าน้ำคำทำร้ายใจ..สะเทือนใจ..

หวังทบทวนความดีมากมีค่า
แก้วล้ำค่าน้ำใจพิสุทธิ์ใส
ถึงตอกย้ำคำไม่รักสักเสี้ยวใจ
ไม่เป็นไรใครคนนี้ไม่มีตน..

ลาดวงใจไปนานใจรานโศก
วิปโยคไกลบ้านรานสับสน
ปีศาจวสันต์กระหน่ำซัดแหลกกมล
สิ้นสายฝนสิ้นสายฝันสวรรค์ลานะวันนี้!

*******



คืนเดือนเสี้ยวเคียวทอง
จำล่องลาแรมร่มรักเรือนทองเรือนไทย
ดวงมาฝากขวัญฝากฝันฝากใจ
ลาทุกดวงใจในร่มรักเรือนทอง
ล่องแรมไกลไปไกลกรุงกรงนานหลายวัน

จำพรายพรากขวัญพรากเรือนรจนาบุหงาลดาวัลย์
อันอ่อนหวานอบอุ่นโอบเอื้อ หลายทิวาราตรีกาล..
จนกว่า..จะได้พบกันอีก..

หากยังมีชีวิตชีวาคืนกลับมา..
กระซิบค่าคำงาม*ดั่งแก้วสารพัดนึก*
อันลึกซึ้งลึกล้ำ
นะกลางจิตกลางใจกลางดวงวิญญาณรักงานงามกวี
ที่เกินกล่าว..ร่ายมาเป็นอักษราภาษาฝัน
เป็นมนต์อันดลรักเสน่หาตราบชั่วฟ้าดินสลาย..
*******



http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=359
ไกลบ้าน   

วิปโยคโศกใจ เหมือนเมื่อไกลบ้าน
ไกลสถานพักพิง ยิ่งใจเหงา
ห่างไกลหัวใจจำเศร้า เจ้าอยู่ดีเป็นไฉน
พลัดที่พึ่งที่พิง ทิ้งที่พำนัก
ไกลที่รักพักพา จะอาศัย
เจ้ามีเพื่อนชมคนใหม่ แล้วทิ้งพี่ให้ชอกช้ำชีวี
อันรักกันอยู่ไกล ถึงสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคา เข้ามาเบียด ดูเสียดสี
อันชังกัน นั้นใกล้สักองคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่า มาปิดบัง
เพราะไกลบ้านซ่านมา โถนิจจาเจ้า
จะเงียบเหงาแล้วลืม ซึ่งความหลัง
ฝากเพียงเสียงกระซิบสั่ง
ขอน้องอย่าชัง คนร้างแรมไกล
  
อันรักกันอยู่ไกล ถึงสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคา เข้ามาเบียด ดูเสียดสี
อันชังกัน นั้นใกล้สักองคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่า มาปิดบัง
เพราะไกลบ้านซ่านมา โถนิจจาเจ้า
จะเงียบเหงาแล้วลืม ซึ่งความหลัง
ฝากเพียงเสียงกระซิบสั่ง
ขอน้องอย่าชัง คนร้างแรมไกล...

 
  

				
11 สิงหาคม 2547 11:55 น.

วิมานฝนวิมานฝัน

พุด


url=http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=6196
(รัก)

วิมานฝนวิมานฝัน
แด่ดวงใจด้วยดวงใจในวันคล้ายวันเกิดชัยชนะค่ะ
************
นาทีนี้
นะวิมานไพรวิมานฝัน
ฝนกำลังพร่างสายพรายพลิ้วแลละลิ่วราวริ้วรวงหมอก
พรายซัดสาดกระทบหลังคาใบไม้กระจายราวเสียงดนตรีแก้ว
ราวเพชรแพรวพริ้ง
กลิ้งวะวับวาวบนเรียวเขียวใสเขียวไพลเขียวพร่าง
ให้กลายว่างกลับเป็นหยาดละออทิพยน้ำค้าง
ดั่งอัญมณีพร่างไพรภิรมย์พรมเรณูหอม
ละออละอองเกสรดอกไม้ป่าดอกไม้ไพร
ให้ใจรื่นชื่นเย็นเป็นอนันตกาล...


ทุกสรรพสิ่งรอนิ่งดู*วิมานน้ำค้าง*พร่างระริน
ทั่วทุกถิ่นไทยท้องทุ่งนาป่าเขาเงาละหาน
สายธาราธารใสหวานรอรับระรินงาม
ของดวงดอกไม้เพชรแตกกระจายกลายช่อละออแพร้ว
ไปทั่วผืนน้ำจบแผ่นฟ้ามหาสมุทร


ทุกธรณีทอง
ที่นะบัดนี้
เย็นฉ่ำด้วยพลังแห่งธรรมชาติ
อันยิ่งใหญ่ยาวนานมาหลายพันปี
และ
ที่มนุษย์นับพันล้านนี้ได้มาอาศัยกายก่อเกิด
ให้สร้างทั้งสิ่งแสนประเสริฐสุดให้โลกพบวิมุติหลุดพ้น
ดั่งพระบรมศาสดา
ผู้ล่วงลับดับขัณฑ์ได้ฝากพระธรรม..ธรรมะ..
ธรรมชาติธรรมดาๆ
รอให้มากมีมากมายผู้คนผู้ตระหนักรู้ค่าได้แสวงหาเพียรค้น
*ค่าคำมนุษย์*ให้หยุดทุกข์ตรม...



ในวันอันพิสุทธิใสนี้..
*คล้ายวันเกิด..ชัยชนะคนดีมีน้ำใจดั่งหยาดน้ำค้าง*
ไพล..ขออวยพรด้วยใจ
ด้วยคุณงามความดีเท่าที่มี..เท่าที่เพียรมา
ขอภาวนาตั้งพลังจิตอธิษฐาน..ให้ชัยชนะ..นะคะ


กราบขอพรวิงวอน
ให้พระพุทธคุณ
ที่แผ่ไพศาลทั่วหล้าฟ้าดิน
ให้ปกป้องผองภัย
ให้รักษาหัวใจดวงงาม
ให้ประคองดวงแก้วดวงธรรม
ส่องนำทางใจไปตราบชั่วนิจนิรันดรค่ะ



และไพล
ขอ..อนุญาติคัดบทกลอนแก้วจาก
กวีนิพนธ์แวววะวับฟ้า*ปณิธานกวี*ของ..ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์
บรมกวีแก้วแห่งรัตนโกสินทร์อีกท่านค่ะ
ที่ได้รับรางวัลสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน(ซีไรต์)ประจำปีพ.ศ2529



มาวางกำนัลแทนของขวัญแทนช่อดอกไม้ไทยละไมหอม..
แทนคำว่าความสุขใจไปชั่วกาลค่ะ...
ด้วยน้ำตาแห่งความปิติใจกับบทกวีนี้
ที่แสนยิ่งใหญ่และแสนซาบซึ้ง
ลึกล้ำไปถึงจิตวิญญาณดวงนี้ของไพลค่ะ


ปณิธาณกวี...รจนาโดยท่านอังคาร กัลยาณพงศ์

ใครจะอาจซื้อขายฟ้ามหาสมุทร
แสนวิสุทธิ์โลกนี้ที่พระสร้าง
สุดท้ายกายวิภาคจะจากวาง
ไว้ระหว่างหล้าและฟ้าต่อกัน..

เรามิใช่เจ้าของอวกาศ
โลกธาตุทั่วสิ้นทุกสรวงสวรรค์
มนุษย์มิเคยนิรมิตตะวันจันทร์
แม้แต่เม็ดทรายนั้นสักธุลี..

แย่งแผ่นดินอำมหิตคิดแต่ฆ่า
เพราะกิเลสบ้าหฤโหดสิงซากผี
ลืมป่าช้าคุณธรรมความดี
เสียศรีสวัสดิ์ค่าวิญญาณ..

สภาวะสรรพสิ่งทุกส่วนโลกนี้
ควรสำนึกค่าทิพย์วิเศษวิศาล
อนุรักษ์ดินน้ำฟ้าตลอดกาล
เพื่อเหนือทิพยสถานวิมานแก้วไกวัล..

ทุ่งนาป่าชัฎช้าอรัญญิกาลัย
เทือกผาใหญ่เสียดดาวดึงส์สวรรค์
เนื้อเบื้อเสือช้างลิงค่างนั้น
มดแมลงนานาพันธุ์ทั้งจักรวาล..

เสมอเสมือนเพื่อนสนิทมิตรสหาย
เกิดร่วมสายเชี่ยววัฏฏะสังสาร
ชีพหาค่าบ่มิได้นับกาลนาน
หวานเสน่ห์ฟ้าหล้าดาราลัย..

ถึงใครเหาะเหินวิมุติสุดฝั่งฟ้า
เดือนดาริกาเป็นมรคายิ่งใหญ่
แต่เราขอรักโลกนี้เสมอไป
มอบใจแด่ปฐพีทุกชีวีวาย..

จะไม่ไปแม้แต่พระนิรพาน
จะวนว่ายวัฏฏะสังสารหลากหลาย
แปลค่าแท้ดาราจักรมากมาย
ไว้เป็นบทกวีจักรวาล

เพื่อลบทุกข์โศก ณ โลกมนุษย์
ที่สุดสู่ยุคเกษมศานติ์
วารนั้นฉันจะปนดินดาน
เป็นฟอสซิสทรมานอยู่จ้องมอง

สิ้นเสน่ห์วรรณศิลป์ชีวิตเสนอ
ละเมอหาค่าทิพย์ไหนสนอง
อเนจอนาถชีวีทุกธุลีละออง
สยดสยองแก่ถ่านเถ้าเศร้าโศกนัก

แล้งโลกกวีที่หล้าวูบฟ้าไหว
จะไปรจนารุ้งมณีเกียรติศักดิ์
อำลาอาลัยมนุษยชาติน่ารัก
จักมุ่งนฤมิตจิตรจักรวาล

ให้ซึ้งซาบกาพย์กลอนโคลงฉันท์
ไปทุกชั้นอินทรพรหมพิมานสถาน
สร้างสรรค์กุศลศิลป์ไว้อนันตกาล
นานช้าอมตะอกาลิโก...

*******


และขออัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=6196
*รัก*

รักทะเล
อันกว้าง ใหญ่ไพศาล
รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส
รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ
รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร
รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ

รักพฤกษา
รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ...

				
7 สิงหาคม 2547 19:04 น.

สร้อยพิกุลแด่ดวงใจไพรเทพี!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2865
(หัตถาครองพิภพ)
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=16
(ค่าน้ำนม)
********

กอบพิกุลกลางลานหญ้ามาห่อหอม
ร้อยพะยอมแทนสร้อยใจมาลัยขวัญ
กราบแทบเท้าแม่คนดีรักนิรันดร์
เทพีขวัญเทพีไพรใจงามดวง..


จูบนิ้วกร้านผ่านงานนามานานนัก
ประคองรักไล้ลูบหน้าซึ้งห่วงหวง
ซุกซบตักอุ่นไอรักมากล้นทรวง
น้ำตาร่วงทิ้งแม่รอขอโทษใจ..


ทุกนาทีที่ไกลบ้านหว่านดอกเหงื่อ
ศรัทธาเชื่อตามรอยแม่มิหวั่นไหว
ภาพแม่พ่อหลังงอนา ติดในใจ
สะเทือนใจเหมือนฝนพรำคอยย้ำเตือน..


ทุกคราคราวเคี้ยวข้าวละมุนลิ้น
สายถวิลสายเลือดรักหนักเสมือน
แบกคันไถตามพ่อไปอรุณเลือน
วันปีเคลื่อนเดือนคล้อยรอยไถจำ


โลกเปลี่ยนไปรอยไถแปรมิแพ้หนี
ฝากชีวีพลีทุ่งชนอิ่มหนำ
กี่ฝนหนาวกี่หนักร้าวเศร้าระกำ
ไร้ฝนพรำน้ำตาพรมทนทำมา...


เทพีไพรเคียงข้างมิห่างพ่อ
มือละออหมุนโลกโศกเหว่ว้า
หัตถาเอ๋ยครองพิภพจบโลกา
คือหัตถาแม่นี้ที่ประคอง...


หลั่งน้ำนมธารน้ำรักสู่ลูกน้อย
ปากบางจ้อยร่อนหารวมใจสอง
น้ำนมรักจากสายใจกอดประคอง
ตาจ้องมองรับรอยยิ้มอิ่มอุ่นนัก..


ธารน้ำรักยิ่งใหญ่ไหลรินหลั่ง
ล้นถะถั่งสู่ร่างพร่างพรมรัก
เท่าฝาหอยเท้าเติบใหญ่ใจพร้อมภักดิ์
จากอ้อมตักพรากอ้อมใจต่อใยบุญ


นะวันนี้ลูกคนดีตามรอยแม่
มิยอมแพ้พ่ายโศกตราบโลกหมุน
อุทิศร่างพลีวิญญาณงามละมุน
โลกหอมกรุ่นหมุนศรัทธามั่นฝันคืนชน..


ลูกคืนหลังซุกร่างใจในตักแม่
เทพีแท้เทพีไพรในทุกหน
หนึ่งในทรวงเทิดเหนือเกล้ากลางกมล
น้ำตาท้นลูกผู้ชายชาติไพรในวันนี้...สดุดีรัก..

********




ด้วยรักนี้ที่แม่ให้..... พุดพัดชา 

เราเกิดมา.........มีชีวิตเพื่อกันและกัน 
สายเลือดอันอบอุ่น...........สายน้ำนมอันยิ่งใหญ่ 
เป็นสายใจ ถักทอด้วยใยรัก และผูกพัน 
รวมเป็น....เส้นทางใจ....ไหลรวม .....เป็นเส้นทางชีวิต 
ที่จิตวิญญาณมิอาจจะพรากจากกันได้ 

แม่ เปรียบเสมือนลมหายใจของธรรมชาติ 
ที่ก่อให้เกิดชีวิตอันยิ่งใหญ่....ของมวลมนุษยชาติ 

สำหรับฉัน เรียนรู้ ที่จะรักโลก .....และ....ทุกสรรพสิ่ง 
ฟ้ากว้าง...ภูเขา...ท้องทะเล...แมกไม้......สายน้ำ...
ด้วยใจดวงพิเศษพิสุทธิ์.......
ที่แม่หล่อหลอมให้ฉันมี.....ให้ฉันเป็น...
และให้ฉันเห็นทุกสิ่งจาก.......
ตาภายใน.คู่พิเศษนี้ ที่ไม่จำเป็นต้องงามงด 
แต่หมดจดด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้
เพื่อเก็บรายละเอียดของความงามบริสุทธิ์ 
ที่รายล้อมรอบตัวเรา.......
ด้วยมิติที่ล้ำลึก.......


เห็นชีวิต จิตวิญญาณยากไร้ของผู้คน โดยการเพาะบ่ม
รู้เพียรเสียสละมอบความรักให้ ......
ให้ความเข้าใจ..ให้อภัย ให้เมตตา และแน่นอน 
ให้กำลังใจมากมายพลีมอบแด่ผองชนผู้สิ้นหวัง.....

โลกของชีวิตฉันจึงเงียบ สงบงาม กว้างใหญ่ 
มากล้นด้วยน้ำใจ ที่พร้อมจะเป็น....ผู้ให้.......... 
ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต 
ในโลกอันสับสนวุ่นวายของการแสวงหาใบนี้.........

แม่ของฉันคือธารน้ำใสไหลเย็น ที่ชุ่มฉ่ำ 
พร้อมจะรินรดหยดลงบนใจทุกดวงที่ได้ชิดใกล้......


ถ้าฉันจะเปรียบแม่เป็น ...ดอกไม้งาม......
แม่ของฉันคือ....
ดอกไม้ไทย ที่มีกลิ่นหอมละมุน 
ดอกสวยสะอาดตา ดูบอบบาง 
แต่ทว่าอ่อนหวาน และอ่อนโยน.......... 

ในขณะเดียวกัน
เธอเปรียบประดุจ....พุทธะ..ประจำใจของฉัน 
เธอคือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน 
ที่บานไสวอยู่ในใจของฉัน
เพื่อนำทางชีวิตให้สว่างไสว ตลอดมา ...
และ....ตลอดไป 


ฉันขอสดุดี 
ผู้หญิงที่เป็นแม่ทุกคนในโลกนี้ 
ที่ได้สอนให้ลูกได้เรียนรู้
จากการกระทำที่เสียสละ 
ดูแลลูกด้วยความอดทน
 ด้วยความรัก 
ด้วยความเข้าใจ 
ด้วยดวงใจที่ไม่เคยหวังสิ่งใดใดตอบแทน.......

เพียงเพื่อ
ขอให้ลูกทุกคนได้เติบโตอย่างแข็งแรง
ทั้งร่างกายและจิตใจที่มีคุณค่า....... 
เพื่อยังประโยชน์ให้แก่ ครอบครัว 
แก่สังคม 
และเพื่อจรรโลงโลกใบนี้
ให้มีแต่ความดีงาม 
ความสงบสุข ตราบนานเท่านาน......

*********



ร้อยมาลัย ด้วยดวงดอกความดี มีคุณค่า 
แทนคำว่า กตัญญู ในใจขวัญ
โลกหมุนเวียน เปลี่ยนเดือน ปี ชั่วกัปป์กัลป์
รักนิรันดร์ฝันยิ่งใหญ่ใจแม่งาม..




http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2865
คือหัตถาครองพิภพ   
ศรัญย่า ส่งเสริมสวัสดิ์ : : Key G  

สองมือที่ดูนิ่มนวลอ่อนโยน
สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น
สองมือที่ดูไม่มีความสำคัญ
คือสองมือที่ทำ ให้โลกหมุนไป
แม้เพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง
แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย
ขอเพียงให้เป็นได้ดังที่ตั้งใจ
จะทุกข์ทนเดียวดายไม่มีความสำคัญ
บันดาลโลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปร
ไปด้วยมือเธอเสกสรร
ดังถ้อยคำประพันธ์
เปรียบเปรยพรรณนา
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้ แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล

บันดาล
โลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปร
ไปด้วยมือเธอเสกสรร
ดังถ้อยคำประพันธ์
เปรียบเปรยพรรณนา
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้ แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล...

*********

 
  



				
5 สิงหาคม 2547 16:20 น.

สร้อยสายใจ

พุด


url..http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=255
(สายสร้อยร้อยใจสายใยสวาท)

*********

คนดี..
นาทีนี้ไพลคิดถึงคุณค่ะ
และ
บางทีคุณอาจจะกำลัง
ทอดตาเหว่ว้าดายเดียวดูสายฝน
มนต์เสน่หาริมลำตะคอง..หอมห้วงใจ
กลางดงพงพฤกษ์ไพร


ในแดนดินแคว้นถิ่นมนต์รักที่ราบสูง
แดนดอกคูนเสียงแคนวะแว่วหวาน
ถิ่นตระการด้วยงามล้ำวัฒนธรรมดิบเดิมเรียบง่าย
ทว่างดงามอลังการ
ด้วยพลังศรัทธาในงานบุญประเพณี
ที่มากมีมากมายให้จดจำเล่าขาน
สืบสานเป็นตำนานแผ่นดิน
ฝากให้ลูกหลานไทยได้ภูมิใจมิรู้สิ้น
ในภูมิปัญญาไทยในผืนดินเกิด..



ไพล..คิดถึงคุณค่ะ..เพราะว่า
ไพลมีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่งดงาม
*ราวปาฏิหารย์รัก*
อยากเล่าให้คุณฟังอย่างที่สุดแล้วค่ะ


เย็นนี้...
ฝนลาฟ้าหม่นมาแต่บ่ายค่ะ
และรินสายรุนแรงจนถึงเย็น
ไพล..ออกไปเต้นเช่นทุกวันค่ะ
เพราะ
ฝนเริ่มหยุดพรำสายหนักหน่วง
เหลือเพียงปรายโปรยละอองฝอยพร่างนวล..
อวลเย็นบนเนื้อนางพร่างพรายพราวเพียงนั้นให้ฉ่ำเย็น


และ
สำหรับ
ผู้หญิงรักสายฝนสายฝัน..เช่นเฉก..สาวไพล..
จึงดีใจและโชคดีจัง
ที่นานๆครั้งจะได้เต้นกลางสายฝน
ในรื่นรมย์ระเริงร่ำฉ่ำเย็นแบบนี้


และ
ในจังหวะช้าช้าลีลางดงามตามบทเพลง..
กับดนตรีกระหึ่มเหงาเศร้า
พลอยพาให้ใจรานร้าวดวงรอนรอนดวงอ่อนหวาน
ต้องหลั่งน้ำตาซึมซึ้งจากก้นบึ้งแห่งเงียบงามใจ
จากเนื้อใจดวงใสใสดวงละมุน
ให้งามกรุ่นหอม
ค่อยๆระริกร่างหมุนวนตาม
ไปกับบทเพลง..ไทยลูกทุ่ง
จากเสียงอันซึ้งเศร้าละมุนนุ่มราวกับจะขยี้ฟองเบียร์
ของคุณก๊อต จักรพรรค์


จากคนที่รักเธอ........... 
แค่คนรักเธอ....ไม่ใช่คนที่เธอรัก 
ได้มารู้จัก ได้แอบรักก็สุขใจล้น 
เธอคือนางใจ สดใสเมื่อยามได้ยล 
ช่วยคนหนึ่งคน ให้พ้นจากความหม่นหมอง 

เฝ้าคอยภักดี ทั้งที่มีสิทธิ์เพียงน้อย 
สุขที่ได้คอย สิทธิ์มีน้อย ไม่เคยเรียกร้อง 
ได้งมเพียงเงา ยามเหงาขอเพียงแค่มอง 
ไม่ได้ครอบครอง แอบจ้องก็เพียงในใจ 

มีชายหลายคน ที่คอยเดินตาม 
ไม่กล้าถาม ว่าใครขอเธออย่างไร 
ไม่กล้าท้วง ยามเห็นเธอควงกับใคร 
เจ็บท้อรอไป.... เทใจให้เธอได้เห็น 

*แค่คนรักเธอ ไม่ใช่คนที่เธอรัก 
ทำใจแน่นหนัก ต่อใยรักไม่เคยว่างเว้น 
หวังเพียงวันหนึ่ง เธอ..ซึ้ง..ความดีที่เห็น 
เปิดทางให้เป็น ให้ฉันเป็นคนที่เธอรัก*(ซ้ำ) 

***********


และเย็นนี้เช่นกันที่
ไพล...
เพียงรู้สึกดี..แค่รู้สึกดี
ที่วันนี้มีคนมากระซิบบอกให้กำลังใจไพล
ว่าแสนเซ๊กซี่..เสียไม่มี
ถามไม่ทันว่า..คำนั้นหมายถึงคนหรือลีลาท่าเต้น


เพราะจะอย่างไรไพลก็ไม่ยึดมั่นกับสังขาร
ที่ก็ย่อมจะร่วงโรยคล้อยยานไปตามแรงดึงดูดโลก
มิมีใครในโลกนี้ที่จะหนีพ้น
กฏแรงโน้มถ่วงนี้ไปได้สักคน
จนในที่สุด
จะฟักแฟงแตงกวามะลิลามะละกอหรือบัวชูช่อละออตูมตั้ง
ก็ต้องฝังราก..หรือร่างพลีลงเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดินนี้
ลงในที่ในท่ามกลางพื้นพสุธามิช้านานด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น


แต่สิ่งที่น่ายินดีกว่า
ในวันนี้
ที่ไพลอยากเล่าให้คุณฟังนั้น
มันเปรียบประดุจดั่ง
*มหัศจรรย์รัก..ปาฏิหารย์รัก*..
ที่ยิ่งใหญ่กว่าเป็นไหนไหน
ห่างไกลจากเปลือกภายนอก
หลอกใจให้หลงอัตตา


พาเวียนวนวายวุ่น
กับการสร้างกรุ่นกลิ่น
ภาพมายากระชากใจกระชากวัย
กระชากเวลาแสนมีค่า
ให้เปล่าเปลืองไปวันวันอย่างไร้ค่า
ไม่มีประโยชน์ต่อใคร
เพียงเติมต่อใจให้ยิ่งหลงทาง..ห่างแก่นกระพี้
*ขุมทรัพย์ทางปัญญาภายใน*
อันเป็นความจริงแท้นิรันดร์ออกไปยิ่งขึ้นทุกทีๆ..


ไพล
ร่ายยาว
เพราะอยากเล่าว่า
วันนี้มีปาฏิหารย์รักมาบังเกิด
ในร้านกาแฟ..กระท่อมไม้สน



ที่ไพล..ชอบมาฝากร่างใจพักพิง
นั่งนิ่งๆรจนางานงาม
หรือไม่ก็ดื่มน้ำหลังการออกกำลังกาย
ที่เจ้าของร้านสาวสวยนั้น
รักไพลราวมิ่งมิตรสนิทใน
ด้วยน้ำใจใสงาม
ที่เราได้โอบเอื้อแบ่งปันกันมาช้านาน


และ
ในบางครั้งไพลจำต้อง
รับบทจำเป็น
เป็น*ที่ปรึกษาปัญหาหัวใจ*
ให้กับผู้ทุกข์เศร้าลำเค็ญ อกหักในรักร้าว
ยามได้รับฟังการระบาย..ภายใต้ชายคาแห่งนี้
ให้เขาคนนั้น เธอคนนี้


ที่ยังหนีรักไม่พ้น
และหัวอกหัวใจกำลังฟกช้ำ
ราวกับกำลังหลงว่าย..น้ำวน
หลงอยู่ในทะเลโลกย์ ทะเลโศกทะเลน้ำตา 
หาฝั่งมิพบเจอ กำลังจะเผลอจมน้ำตาย


ได้แต่ตะเกียกตะกาย
ขอเพียงมือใครสักคนมาฉุดดึงขึ้นมา
พาให้มีสติ
นะนาทีแสนฉุกละหุกแสนเศร้าดายเดียวนั้น

ที่บางครั้งบางคน
ถึงกับสารภาพ อยากจมตัวเองลงสู่ก้นบึ้ง
มิยอมทะลึ่งตัวมาสูดลมหายใจอีกต่อไปแล้ว
ด้วยหมดหวังพลังใจ


และ
เย็นนี้
ทันทีที่ไพล ผลักบานประตูกระท่อมไม้สน
กระท่อมไม้ไพรกระท่อมพักใจ
ราวศาลาคนเศร้า..เข้าไป



ไพล.กวาดตาเข้าไปที่*โต๊ะประจำใจ..*
*ริมหน้าต่างโมก*
พรูพวงดวงดอกกระจิ๊ดพราวนวลสวยซ่อนหวาน
ที่ไพล..มักใช้ตาช้อนผ่านกระจกบานกว้างแอบทายทัก
พักตาพักใจเคลียไหวหวามในท่ามกลางชีวีชาวกรุงกรง..


แต่..
นะเย็นนี้
กลับมีหญิงสาวรูปงาม 
นั่งดายเดียวก่อนหน้าแล้ว

นะนาทีแรกที่เห็น
ไพล..บอกตัวเองได้เลยว่า
เธอ..นั้นงามนักงามหนา
ราวนางในภาพฝัน..ในวรรณคดีไทย 
ด้วยรูปรอยเสี้ยวใสละมุน
ในวงหน้านวลละออ ราวรูปสลัก


และที่แสนน่ารักนัก
ตรงที่..
ดวงตากลมโตหวานเศร้าแฝงความสงบงาม
ราวมีหยาดน้ำเพชรพริ้งพราวในเรียวตา
สะท้อนแสงวะวับวาวตลอดเวลา
และ
ที่ยิ่งงามเศร้างามโดนใจประทับใจไพล
จนเงียบงันเสียยิ่งกว่านั้น...คือวงหน้าละออ
ล้อมด้วยผมเลื่อมพรายประกาย
ราวสายไหม
และมุ่นมวยงามราวสาวโบราณย้อนยุค..


และ
คนดี...คุณคนที่เข้าใจไพล..ดีเสียยิ่งกว่าใคร
คิดว่า
คุณคงรู้ดีว่า..
สำหรับหัวใจและความรู้สึกไพลแล้ว
จะมองภาพงามประทับตาประเทืองใจนี้..
ผ่านไปได้อย่างไรกันเล่า..
โดยมิหยิบยื่นไมตรีทายทัก
ด้วยรอยยิ้มหวานอบอุ่น..พลีมอบให้
ค่าที่มักชื่นชมงามแบบกุลสตรีไทย
ที่งามพิสุทธิ์ใสไร้เครื่องสำอาง
สารเคมีประทิ่นประเทืองทับราวกับโบกปูนปิด..รอยไว้


เธอ..
ยิ้มตอบ
และ
พลันราวสายตาไพลฝาด..ฝันไปละกระนั้นหรือ
เมื่อเห็นหยาดน้ำใสใสในแววตาเธอ
มาออซึ้งตรึงหน่วยตา
ราวจะหยาดหยดรินรดลงนะตรงหน้าไพล

ด้วย..สัญชาติญาณจากใจดวงละมุนกรุ่นหอม
*จากบ้านภายใน*
กำลังเตือนใจเตือนไพลให้ทราบว่า..
เธอคนนี้กำลังมีปัญหา..อีกแล้ว...เหมือนมากมายผู้คน
ในรอบปี..ที่ไพลพบเผชิญ..นะที่นี่..และอีกหลายๆที่..



ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งในวัด..
ที่สงบสงัดเงียบงาม 
ที่มากมีผู้คนอลวนย่างกราย
ไปใช้เพียงพักพิงระบายใจคลายทุกข์
ปลุกพลังเพียรสรรสร้าง*กุศลทาน*
ผ่านเพียงการทำบุญตักบาตร


ขาดการเพาะบ่มสติให้มีสมาธิภาวนา
มีปัญญาค้นหาทางสว่างไสว
อันเป็น*สิ่งที่ซ่อนอยู่ไม่ไกล
แค่ในกายเรากว้างหนาวาศอก*
ที่มีขุมทรัพย์อันชอบ
ให้ค้นพบ
โดยพลีพร้อมน้อมนำธรรมนำทางใจ
ไปไขความลับ
ไปจับจิตให้หยุดคิด..
สนิทในปัจจุบันงามเงียบล้ำลึก
วาง ว่าง เมื่อไรก็เมื่อนั้นจะไปถึงประตูบานนั้น..


หากแต่ทว่า 
เราทุกคนนั้น
บางทีราวมีผงเข้าตา
ที่พาให้มนุษย์เรานั้นมัวเสียเวลา
ค้นหาเพียงแค่สุขภายนอกมาคอยเติมเต็ม
และ
หลงเฝ้านั่งหลอกหลงอัตตา
พาให้นั่งทับ..ขุมทรัพย์..
ไม่ยอมแง้มดู..เปิดประตูบ้านภายใน
แก่นแท้นะกลางใจร่างกลางร่างเรานี่เอง..



คนดี..
ด้วยเหตุนี้
ไพลจึงทรุดตัวลงนั่ง..ตรงหน้าเธอ..
อย่างช้าช้า..และถามเธอว่ามารอเพื่อนหรืออย่างไร
และขอให้น้องในร้านนำน้ำมาบริการเธอ..


และ
ไม่ช้าบทสนทนาจากเธอ
ก็เผลอพร่างพรู
ราวทำนบทุกข์ใจ..รอเวลาระบาย
เธอ..บอกว่าเธอกำลังอกหัก..ช้ำรักอย่างแรง
ผู้ชายคนดี
ที่เธอฝันฝากใจ
ไปมีหญิงงามคนใหม่ตอนไปฝึกงาน
เพียงแค่สามเดือน
ที่เมืองงามเมืองดอกไม้เมืองหนาว
เขาคงทนเศร้าทนคิดถึงไม่ไหว
ด้วยไกลห่างระยะทาง
ทั้งๆที่กับเธอ
ผ่านการพิสูจน์ใจร่างมานานถึงสามปีเต็ม


และ
ด้วยความช้ำตรมระบมด้วยพิษรักร้าว
เข้าสูตรตามแบบฉบับ
ทุกทุกข์รักมักจบด้วยพบปัญหา
คล้ายตอกตรามาอันเดียวกัน
เป็นพันล้านเรื่องระทมรัก
คนอกหักจึงมากมีและ..
มากมายปัญหาสังคมตามมา


คนดี..
เธอ..คนนี้ก็..หนึ่งในนั้น
จึงต้อง
มานั่งรอเพื่อนรัก..นัดมาระบายรักระบายใจ
หวังหนีไกลห่างทุกข์เพียงสักชั่วขณะก็ยังดี



ไพล..ฟังๆไปและแอบอึ้งไปชั่วแวบ
หัวใจแม้นจะเศร้าตาม
ก็แอบรู้สึกคิดถึง..*คำคุณคนดี*
ที่เบื่อนักเบื่อหนา
กับคำรักนี้ที่เวียนวน
และเพิ่งจะปะทะคารมกับไพลไปแบบประชดประชัน
ที่คุณนั้นเฝ้าบอกเฝ้าสอน..บทเรียนใจ
*ชีวิต..คนเกิดมาแสนสั้นนัก
ไยช่างเสียเวลามีค่ามากมาย..คิดคิด..ฝันฝัน
แค่คำรักและเนื้อหนังมังสา
กระนั้นละหรือนี่..กระนี้ละหรือหนอ*
และ
ใช่ซี..ไพลประชดกลับ
คนดี..มิใช่คุณนี่นา
ที่ราวมนุษย์ในรอบพันปีมาเกิด..
ที่พาใจประเสริฐมาพบหลุดพ้นทุกข์รัก



คนถึงยังต้องจักเป็นคนคนคน
มิพ้นวายวุ่นวง
หลงวนกรรมกระหน่ำรักกันไม่ยั้งหยุด
เพราะ
เพียงหัวใจมิอาจหยุดคิดได้ 
เลยต้องแพ้พ่ายกับคำอดีตกรีดรอย
และอนาคตลอยๆ
ที่ยังเวียนวนมาไม่ถึง..
จึงยังไม่พบค่าคำซึ้ง*มนุษย์ผู้วิมุติหลุดพ้น
*ผู้อยู่เหนือโลกเหนือโศกสุข เสียที*



มิพาตัวหนี 
หากสะดุดความคิดติดจม
อยู่ใต้โคลนตมไปเป็นเหยื่อเต่าปลา
แบบบัวในคลองห้วงเหวลึก..อย่างนึกไม่ถึง
ด้วย..
ความไม่รู้รักษาจิตจับอยู่กับความเป็นปัจจุบัน..
อันเป็นเทคนิคธรรมนำทางใจให้ไสวสว่าง
มิต้องเวียนว่ายวนทุกข์
ที่ดูช่างแสนง่าย
หากราวมีผงเข้าตา..หาค้นพบไม่..


นอกจากมีใครดั่งกัลยาณมิตร
มาพร่างน้ำใจละอองใสดั่งหยาดละอองน้ำค้าง
ล้างตาล้างใจให้ใสสวย
ช่วยให้มองทางกระจ่างแจ้ง
ด้วยจิตแห่งความรู้สึกตัวทั่วพร้อม

มองเข้าไปภายในกายเรา..
ใช่วัตถุสิ่งใดภายนอก ไม่ว่าใครไม่ว่าของ
ที่มายวนยั่ว
ให้เติมเต็มสุขวูบวับดับเท่าไรก็ไม่เคยพอ..
โอ้ละหนอ..จิตมนุษย์ที่สุดจะยากแท้หยั่งถึง



ไพล..จึง
ได้แต่เปิดจิตภายในรับฟังอย่างตั้งใจ..
อย่างผู้ที่ผ่านทุกทุกข์รักมาอย่างสาหัสสากรรจ์
จนนะวันนี้
ราวมีวัคซีนทุกสายพันธุ์รักคุ้มกันจากพันธนาการ
จิตวิญญาณผ่านการค้นพบจบลงด้วย
*ความสุขนิรันดร์ที่จริงแท้*
ใช่หวังขอเติมพลังใจพลังสุข
จากใครจากผู้ใดอีกต่อไปแล้ว


ไพล
ใช้ความรู้สึกรับรู้ทุกอณู
ด้วยพลังแห่งความเมตตา..
และ
อย่างช้าๆ
ไพลค่อยๆยื่น
เรื่องรักรจนาล่าสุด*รัศมีแก้ว*
หวังให้เธออ่านฆ่าเวลาหยุดเวลา
เพราะไพลมักพริ้นท์งานทุกเรื่องเก็บไว้และ
ไพลจะใช้หน้ากระดาษด้านหลัง
ที่ยังว่างอย่างคุ้มค่า
นำมารีไซเคิลรจนางานเรื่องใหม่..
ยามมีเวลา..อย่างมีประโยชน์เต็มที่


ไพล
บอกเธอว่า..
หวังว่าจะดีกว่าการนั่งรอทรมานใจ
เธอ..
ขอบคุณ..
และก้มหน้าลงไปอ่านผ่านตาซึ้งเศร้า
อย่างพยายามทำความเข้าใจ


ไม่นานนาที
เธอ..กระซิบถามเสียงแผ่ว*พี่เขียนเองเหรอคะ*
ทำไมคำสละสลวยจัง
และพลันราวพลังทำนบใจเธอแตกพร่าง
เธอ..สะอื้นจนร่างสั่นไหว..
จนไพล..ตกใจอย่างคาดมิถึง
อะไรจะซึ้งเร็วปานนี้
ไพล..ระล่ำระลักถาม
เกิดอะไรขึ้นคะ
เธอยังตอบไม่ได้..
ไพลได้แต่ยกผ้าเช็ดหน้าให้เธอซับหยาดน้ำตา


และ
ได้แต่กระซิบว่าให้หยุดร้อง
ได้แต่ปลอบด้วยหัวใจ
ด้วยความรู้สึกเมตตาที่แสนพลิ้วไหว
ด้วยอารมณ์สะเทือนใจตาม..
ไปกับเธอ...ผู้ซึ่งกำลังสับสนกับปัญหาหัวใจ
ไร้มือไร้ใจใครสักคนมายื่นยุดช่วยฉุดให้พ้นทุกข์นี้



คนดี..
และ
นี่คือเรื่องจริง
จริงเสียยิ่งกว่าจริง
คือสิ่งที่ไพลอยากเล่าให้ดวงใจคุณ
ได้รับฟังรับทราบรับรู้เพียงคนเดียวด้วยซ้ำค่ะ


และ
ไพลต้องใช้เวลาหลังจากนั้นนานนับชั่วโมง
เพื่อปลุกปลอบชี้ทางธรรมะ..
ให้กับเพื่อนมนุษย์ร่วมเกิดแก่เจ็บตายว่ายวน
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น  อย่างพึงมีพึงเป็น
อย่างกัลยาณมิตร..



และ
ไพล..ไม่ทราบนะนาทีนี้คุณคนดีอยู่ที่ไหน
จะคิดถึงไพลบ้างไหม..ละหนอ
เพียงไพลอยากแค่มาขอฝากคำกระซิบบอกคุณว่า..


ไพล..
ภูมิใจนะคะ
กับสิ่งที่ไพลได้ทำด้วยดวงใจรักปรารถนาดี
แม้จะเป็นเพียงคำพูดเล็กน้อย..

ที่ทำให้ใครคนหนึ่ง
ได้ลุกขึ้นยืนและกล่าวคำซึ้งซึ้งขอบคุณไพลว่า
นะเวลานี้หัวใจเขาเข้าที่พอจะวางทุกข์ได้แล้ว
แม้จะต้องเพียรหยุดคิดหยุดรักพักใจ..
ใช้เวลาเยียวยาบาดแผลใจไปสักระยะ..
แต่ทว่าเขาจับจิตจับเทคนิค..
พอรู้วางให้ความคิดว่างได้แล้ว..



และ
ก่อนลากลับ
เธอ..
บอกกับไพลว่า
เธอมีบางสิ่ง
ที่กำลังจะเล่าสารภาพให้ไพลฟัง



ว่า...
โลกนี้นั้น..
มีพลังในมิติที่ลี้ลับ
ที่อยากให้ไพลรับรู้
ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง
กับสิ่งที่ไพลเพียรเสียสละมากเมตตาให้น้ำใจ..แด่เธอ..



ที่เป็นเรื่องจริงราวปาฏิหารย์
ให้ไพลตั้งใจฟังให้ดี
เธอ..บอก
ก่อนที่จะได้พบพานกับไพล
เธอ..เดินเวียนมาสองรอบแล้วและ
ไม่กล้าเข้ามานั่งข้างในร้านนี้
ด้วยเกรงใจเจ้าของ..เพราะต้องรอเพื่อนนาน


จนฝนตก..หนัก
เธอ..จึงต้องวิ่งกลับมารอพักฝนใต้ชายคากระท่อม
นั่งมองสายฝนลำพัง
ด้วยดวงใจดายเดียวสุดทน..
แล้ว
เธอ..ก็ค่อยๆหันไปเห็น*ศาลพระภูมิ*

ศาลนี้ซึ่งมีที่มา
ที่..ซึ่งเจ้าของร้าน
เคยเล่าให้ไพลฟังว่า
ก่อนจะตั้งขึ้นนั้นเธอฝันเห็นช้างตัวใหญ่วิ่งมา
จะทำร้ายน้องคนหนึ่งในร้านนี้..


เธอ..จึงคิดว่า..สถานที่นี้
หากเธอคนดี
พลีบูชาบอกเจ้าที่เจ้าทางคงดีที่สุด
และ
ทุกครั้งสำหรับไพล
ไพลก็จะไม่ลืมยกมือไหว้รายงานตัวอย่างไม่ลบหลู่


และ
บางครายังมาขอ
อธิษฐานบานบนให้พบแต่สิ่งดีงาม
ตามประสาชาวพุทธที่
แม้ถูกสอนให้ยึดมั่นกับสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล
แต่เราทุกคน
บางครั้งก็เพียงแค่หวังฝากศรัทธา
เชื่อสิ่งที่ยังมองไม่เห็นด้วยตา
ที่ยังพิสูจน์ค้นหาความลี้ลับยังไม่ได้
ขอเพียงให้เป็นดั่งพลังใจให้เพียรคิดดี พูดดี ทำความดี
เพียงนั้นก็คิดดีที่สุดแล้ว

 


เธอ
เล่าต่อว่า
เธอ...ซึ่งกำลังสับสนกับปัญหาหัวใจ..
จึงหันไปไหว้
พร้อมกับใช้ความรู้สึกภายในจริงๆ
ตั้งจิต
อธิษฐาน
เธอ..
ขอพร..ว่า
หากปาฏิหารย์มีจริง
เย็นนี้ให้เธอ..พบใครสักคนมานั่งตรงหน้า
คนที่มีบุญวาสนาพอที่จะนำพาเธอพบแสงสว่าง
ชี้หนทางแห่งใจให้กระจ่างใสหมดมืดมน..
อย่าได้หลงวนอ้างว้างอย่างนาทีนี้..อีกเลย


และ
เธอ..บอก
พี่.จะเชื่อไหม พี่ดูสิมือหนูยังสั่นไหว
หัวใจหนูยังไม่สิ้นปิติ
ขนยังลุกอยู่เลยด้วยยินดีด้วยความดีใจ


พี่คะ
ในชีวิต
หนูไปวัดทำบุญ
สวดมนต์ภาวนาคาถาชินบัญชร
ยึดมั่นในศีลมีสติ
เพียรนั่งสมาธิ
ที่จะมีปัญญาพาหลุดพ้นวังวน
กรรมรัก
และ
วันนี้ราวกับผงเข้าตาหนู
แม้นจะชั่วครู่ชั่วยามที่จิตมืดมน
หนูคิดว่าหากหนูจะพ้นกรรม
ก็ขอให้หนูได้พบคนดีเช่นกันมานำทางสว่าง


พี่..คะ
หนูน้ำตาพร่างเพราะ..หนูสะเทือนใจ
และหนูปิติใจ
ทำไม..คำอธิษฐานหนูราวปาฎิหารย์รักมีจริง
พี่..คือใครคนนั้น..
พี่..พี่มานั่งตรงหน้าหนูจริงๆ...
พี่..คือสิ่งที่ยิ่งกว่า..เหนือกว่าค่าคำที่เรียกว่า*ปาฏิหารย์รัก*ค่ะ

************



คนดี..
แล้ว
ไพลจะจบเรื่องนี้อย่างไรดีคะ
นอกจาก..
เพียงอยากฝากบทเพลงนี้..
ถึงทุกดวงใจ
เพราะ
คือบทเพลงประจำใจ..สอนใจ
ให้ดวงใจ..ใสงามของไพลยึดมั่น
ตั้งศรัทธาในรักอันหนักแน่นมั่นคงมิหลงโลกย์
ที่จะสัตย์ซื่อถือตรงคงมั่นในรักแท้ต่อคนดีเสมอมา
ผู้หาญกล้าผู้เพียรทำแต่ความดีที่ยิ่งใหญ่เพื่อผองชนผู้ทนทุกข์ยาก
และอยากฝากกระซิบย้ำบอกคำว่า..
*ไพลรักคุณ....
และ
เพื่อนมนุษย์ทุกคนทุกดวงใจค่ะ
ตราบนานเนานิรันดร์จนกว่า...จะถึงวันชีพวาย*
***********



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72
หนึ่งในร้อย   
นิตยา บุญสูงเนิน : : Key Eb  
พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย

รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
***********

 

http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=255

สายสร้อยร้อยใจ   ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ : : Key Dm  

สายสร้อยร้อยใจสายไยสวาท
หมายขาดหลุดสุดหนทาง
รักจางตรอมตรมไม่หาย
โอ้ใจเอ๋ย ไหน เลย มาหน่าย
ฟ้า ดินแม้สิ้นสลาย รักมิคลายรักสุดบูชา
สายจิตร้อยทรวงไยลวงหลอกหลอน
อกสั่น หวั่นรักรอน ยามกินยามนอนผวา 
ภาพความหลัง นั้น ยัง เตือนตา 
น้อง คงมิปรารถนา จึง ลาระทมตรมใจ
พี่ แพ้ เจ้าไม่แลเหลียวมองมาเลย 
อก เอ๋ย ไปชื่นชมหลงคารมใคร 
พี่ รัก ใช่หลอกลวงรักเต็มทรวงใน
รัก ซ่อนซ้อนใจ ห่วงหรือไรทิ้งพี่ให้ตรม
สายโซ่คล้องใจสายไยสวาท
พี่อยู่ ก็เหมือนคน ไม่กายไร้ใจชื่นชม 
สร้อยใจหาย รัก กลาย เป็นลม 
เหลือรอยสายสร้อยขื่นขม 
ร้อยอารมณ์ระทมตรมทรวง...
 
 

				
4 สิงหาคม 2547 14:15 น.

รัศมีแก้ว!

พุด


url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=45
(บุพเพสันนิวาส)
พลีมอบแด่ทุกดวงใจทุกทุกข์รัก
***********

ผม..ตื่นนอนมาตอนตีห้า
เดือนยังลอยเด่นดวงระยับฟ้าทางทิศตะวันตก..
ดุเหว่า..นกไพรผกโผผินออกหากินบินคู่กันไป

อรุณเบิกฟ้าเริ่มคลี่แสงหวานใสสีอำพัน..
ผมรู้สึกเงียบงัน
กับฉากฝันงดงามตรงหน้ายามอุษาสาง
หัวใจดวงเข้มแข็ง
แฝงพลังความอ่อนโยนอบอุ่นละมุนละไม
ราวกลีบดอกไม้ไพรค่อยค่อยคลี่กลีบเบ่งบาน
รับหอมงามจากสายแสงแรกแห่งดวงตะวันอันอ่อนอุ่น



ประตูบ้านภายในของชีวิตผมถูกเปิดออก
ในความนิ่งงันนั้น..
ผม..พาตัวผมกลับเข้าไปสู่*แสงจรัสจ้า*
*พลังวิเศษที่ลึกล้ำ* เกินกว่า
สายตาภายนอกจะมองเห็นเช่นปกติธรรมดา..


ผม...กำลังใช้ความเงียบงาม
แห่งธรรมชาติทั้งมวลอันยิ่งใหญ่นั้น
*หยุดใจ หยุดความคิด..*
ผันพา*ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมทุกอณู*..
เข้าไป*สู่มิติแห่งความจริงแท้*

ที่ผมเพียรใช้เวลานานหลายปีเพื่อค้นหา
ด้วยการปฎิบัติจริง เพื่อพิสูจน์..
ความจริงยิ่งกว่าจริง..
ที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นดั่งแก่นแท้ในชีวิต
กว่าการเล่าขานใดใดจากปากต่อปาก..
หากต้องใช้ความเพียรลงมือกระทำ..เอง


คนดี..และ
ไม่ว่าราตรีนี้
คุณจะนอนนิทราหลับฝันอยู่นะหนใดในหล้าโลก

ผม..ผู้มีโชค..ได้เกิดมาพบและรักคุณ
แบบเหนือโลกย์โศกสุขพ้นทุกข์รัก..
อยากเพียงกระซิบบอกความลับในใจนี้
ที่ผมค้นพบ*พลังจิตมหัศจรรย์*
ให้คุณเพียงนั้นได้รับรู้ก่อนเป็นคนแรก


เพราะ...
ผม..มิอยากให้เราสองต้องแบก
*โลกแห่งรักหนักราวศิลา*
ที่แสนหนักนักหนาไว้บนแอกใจ
ไปตราบชั่วกาลนานนิรันดร์
ผม..หวัง...จะเป็นดั่งดวงแก้ววิเศษ
ส่องนำทางสายสว่าง
ที่ผมเพียรพบนี้


ให้คุณได้ก้าวสู่บานประตูลับนี้
ที่เปรียบเสมือนดังสะพานผ่าน
สู่*ห้วงแห่งมิติที่ไร้กาลเวลา
มิติ..ที่เรียกว่า*แสงสว่างทางปัญญา*
ที่ที่ซึ่งจะไม่มีคำว่าอดีตและอนาคต


คนดี...
แค่เราสองนี้เพียรกำหนดจิตพิสุทธิ์ใสผ่องแผ้ว
ให้อยู่ใน..การกระทำปัจจุบัน..
จะพานพาเราสองนั้น..
พลันพบ*อาณาจักรแห่งความสงบล้ำลึก*
อย่างนึกไม่ถึง 
พบ..
ความเกษมซึ้งซึ่งโปร่งแสง
พบความแกร่งกล้า..


และ
คนดี..
นั่นคือแก่นแท้ในตัวคุณ*ผู้มีเนื้อนาบุญ
ที่กุศลส่งมาให้เราสองต้องพ้องพาน
ได้มาพบกัน..รักกัน..ปรารถนาดีต่อกัน


ผม....
จึงอยากแบ่งปันความงอกงามนี้
พลีแด่จิตวิญญาณคุณ
เหนือ..มากกว่า*การให้..หรือได้รับ*สิ่งใด
เพราะมันจะไม่มีวันแตกสลาย
มันจะตามติดจิตวิญญาณคุณไป


และ
แม้ในนาทีสุดท้าย
หากคุณพลาดพลั้งการ..รู้แจ้งมาตลอดชีวิต
ขอเพียงคุณมีจิตสว่างว่างเพียรเพาะบ่มบุญ
สร้างกุศลเสียสละมามากพอ

ประตูบานสุดท้ายจะเปิดรอทันที
เมื่อร่างกายคุณใกล้จะดับสูญ
คุณจะมีความรู้สึก*สุขเกษมสงบนิ่ง*เหมือน
ในหนังสือ*Tibetan Book of The Dead *
อธิบายไว้ว่า...จะมี
*รัศมีจรัสจ้าแห่งแสงที่ไร้สีของความว่างเปล่า*
มานำทางเราไป


และ
มาตรแม้นเราไม่เพียร..
*ให้เข้าถึงอาณาจักรแห่งความสงบล้ำลึก*
ซึ่งเป็นการฝึกการตายก่อนตายแล้วไซร้
เราทุกคนอาจจะพลาดได้เมื่อ
บานประตูสุดท้ายนั้นเปิดออก
ให้พบแสงสว่างจ้าพาไปพบ
ที่สงบเย็นว่างไร้ร่าง
มิต้องวนมาเกิดรับกรรมใหม่


ที่มนุษย์มักหันหนีไปโดยอัตโนมัติ
ด้วยความไม่รู้ ด้วยสติยังมิถึงพร้อม
ด้วยความกลัว
ด้วยแรงต้าน ด้วยขาดสติ


และ
นั่นคือการต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก.
หาก*จิตปัจจุบัน*ไม่ฝึกสร้างพลังให้แกร่งกล้า
ฝึกความไม่มีวันตายของความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
ให้เลิกยึดมั่นถือมั่นตัวตนจอมปลอม
จนกระทั่งตระหนักได้ว่า*ความตายเป็นเพียงมายา*
เหมือนภาพมายาอื่นๆนะคนดี..


และ
ผม..จำได้..คุณเคยฝากทัศนะไว้..กับผม
*รักก็แค่ละครชีวิต*เป็นวัฎฏจักรที่ไม่เที่ยงแท้..
ที่มนุษย์มักยอมพ่ายแพ้..
คิดว่าความรักความใคร่นั้น
เป็นเสมือนการปลดปล่อย
จากความกลัว ความเหงา เศร้าดายเดียวที่ฝังลึก
เป็นความต้องการ เป็นความขาด..เป็นสัญชาติญาณ
หวังวาดจะมีใครสักคนมาเติมเต็ม


ผู้หญิงจึงต้องการผู้ชาย 
ผู้ชายจึงต้องการผู้หญิง
และ
เมื่อความรัก ความหฤหรรษ์
ราวน้ำผึ้งฝันสวรรค์หวานสวรรค์สรวง..พ้นผ่านไป..
ร่าง..จำต้องแยกห่างกัน..


มันก็ยังมิใช่สุขนิรันดร์ สุขเกษม หลุดพ้น
เพราะ..
สิ่งที่จะตามมาคือความทุกข์จากบ่วง..จากหวง
ห่วงใย..จากใจที่คิดเพิ่มเติมทุกข์ทบทวี
จากขาดสติความรู้สึกตัว
จนก่อเกิดเป็นความกลัว..การพลัดพราก
หากอีกฝ่ายตีจาก..สิ้นรัก


มักจะเกิดการเรียกร้อง คาดหวัง จากฝ่ายตรงกันข้าม
จนเกิดการ..ขัดแย้ง..จนไร้อิสระทางจิต..
ด้วยมิอาจ*หยุดคิด หยุดทุกข์ได้*
เพราะกลัวความเปลี่ยนแปลงมิคงที่คงทน
มัวกังวลกับอนาคต
เป็นราวเกมส์กมลหลงยึดมั่นถือมั่น
วนเวียนเรียกร้องต้องการ...มิสิ้นสุด


และ
คนดี..ทุกดวงใจ..
*เพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น*
หากคุณยังตัดรักไม่ได้ ตัดใจไม่ได้จำต้องชดใช้วิบากรรม


ผม..
หวังเพียงให้คุณทุกคน
รู้แจ้ง..ยอมจำนน จ่อมจมในตัวทุกข์เสียให้พอ
และต่อมาก็เพียงแค่ลองหัดหยุดคิด
จิตจับเฉพาะปัจจุบันขณะ


จงค่อยๆปล่อยวางต่อ*ทุกทุกข์รัก*
ต่อความเศร้า ความสิ้นหวัง
ความกลัว และอะไรก็ตาม
ที่จะตามมาจากผลแห่งรักนั้น
หากหนีไม่พ้นเพรงกรรมที่ตามมาย้ำรอย
ขอเพียงให้โอบกอดมันไว้แล้วรอคอยจังหวะ
สงบนิ่ง


เริ่มทีละน้อยๆให้จิตว่าง
และนั่น
ก็ราวกับจะมีปาฏิหารย์ผ่านพ้นพาสู่อาณาจักรสวรรค์...
ได้เช่นกัน..หากจิตนั้นสงบงันนิ่งพอ..


และ
คนดี..
จงใช้สายธารสติความรู้สึกตัว
ที่เปรียบเสมือนสนามพลังงานอันยิ่งใหญ่
ดั่งสะพานเชื่อม..สู่..*ต้นกำเนิดภายใน*
ที่หยั่งรากลึกแสนใสสงบนิ่ง..
ที่อยู่ลึกภายในกายเราใช่ไกล..เกิน


และ
บานประตูบานเดียวที่จะเกี่ยวร้อย
ดั่งกุญแจให้ไขความลับ..ของทุกสรรพสิ่ง
ให้ค้นพบความสงบงามอิสระแบบล้ำลึกนั้น


จงเพียรฝึก..
มีความมุ่งมั่น 
เลิกกังวลอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
เลยซึ้งเศร้าจำกับอดีตที่ทำร้ายคุณมานานเนาเสียที
จงให้อภัยและใส่เพียงความเมตตาปรานีลงไปแทนที่


และอยู่กับสิ่งนี้ที่เรียกว่า
การ*ทำจิตให้ผ่องใส
กำหนดลมหายใจเข้าออก
พาพลังลงสู่เซลส์ทุกอณูในร่างคุณ
ด้วยความรู้สึก..มิใช่ความนึกคิดอีกต่อไป


คนดี..
หากลวิธีเข้านะทุกวิธี
ที่จะอยู่กับลมหายใจ
เพียรเพ่งเฝ้ามอง...
*มหัศจรรย์รัก*จากธรรมชาติทุกสรรพสิ่ง
ที่วิ่งวนอยู่รายล้อม..ไม่มีความยึดมั่นถื่อมั่น 
ปล่อยให้...
อนาคตและอดีตนั้น..สลายลาไปกับความเป็นปัจจุบัน..
อันคือสิ่งที่จริงแท้..


มองดูดวงดอกไม้ค่อยๆคลี่กลีบแย้มบาน 
ดูหวานพระจันทร์
ดูพรายตะวันแรกแห่งแสงอรุณ
ดูละมุนความรักของสรรพสัตว์ที่..ไม่มีอัตตา
หยุดคิด..แล้วดู..หยุดใจฟุ้งมุ่งแค่เพียงความสงบงาม
กับสิ่งตรงหน้านาทีต่อนาที
ไม่มีการปรุงต่อเติมเพิ่มแต่งไปตามความคิด..


และ
มาตรแม้น
ใครภายนอกจะทำร้ายคุณ
ด้วยความไม่เข้าใจด้วยคำพิพากษา
ด้วยอัตตายังหลงมั่นยึดมั่น
ให้รานร้าวเศร้าหมองสักเพียงใด


ก็...
จะไม่มีอิทธิพลมาพัดพาสติแห่งงามนี้
ให้สั่นไหวสะเทือนใจเสียใจ
ที่เรียกว่า*ความรู้สึกตัว*


เพราะคุณจะรู้แจ้ง
มี*สะพานสายธารพลัง
แห่งความเป็นปัจจุบันความเงียบงามสงบสุข*
ที่ที่สอนให้รู้หยุดคิด
ให้นิ่งสนิทและวางทุกสิ่งไว้นะนี่นั่น*บ้านภายใน*
รู้วิธีคิด..แล้ววาง..เมื่อร่างจำต้องดำรงร่างรับภาระหน้าที่
ถอดหัวโขนนี้ที่จักต้องธำรงเพื่อโลกโลกาภิวัฒน์
เมื่อสำเร็จงานงาม...อย่างไม่ยึดติด


โลกภายใน..จะมิมีวันสั่นไหว 
เหมือนปลอดภัยจากทุกสรรพสิ่ง
ไม่ว่ารักชังเนื้อหนังมังสา
อาหารโอชารส
ลาภยศสรรเสริญ
และบทละครโลกโศกสุข..


และ
นี่คือ
ความในใจผม... ที่ผมกระจ่างแจ้ง
พบแสงงามแห่งปัญญาและ
เพียรแสวงหาทางหลุดพ้นมาแสนนาน
จากทุกข์รัก 
.

ผม..พบแล้วจากจิตยอมจำนน
ในทุกข์เบื้องต้น ตั้งอยู่ 
และรู้ดับไปในทุกเงียบงาม
ปล่อยให้หัวใจราวว่างเปล่า
แสนสุขล้ำ 
*ด้วยพลังแสงแห่งปัญญาจรัสจ้า*
พร่างพรายทั่วกายอย่างไร้ขอบเขต
ไร้ข้าศึกศัตรูจากโลกวัตถุโลกมายาจากใจจากใคร
ที่จะเข้ามารานรุกบุกทำลายให้พลังจิตสั่นไหวได้


และ
นี่คือสิ่งที่ผม...กำลังวนเวียนเพียรอธิบายซ้ำๆ

ผม...พยายามเปิดบานประตูสายธารเกษม
ให้เป็นดั่งสะพาน
พาคุณและเพื่อนมนุษย์..พบฝั่งฝัน
ที่มองไม่เห็น....


หากมีชื่อว่า
*สิ่งจริงแท้อันเป็นนิรันดร์
* ที่เป็น*ดั่งขุมทรัพย์มหัศจรรย์*
ซ่อนอยู่ในทุกร่างมนุษย์
ขอเพียงให้*หยุดคิด*เป็น


และใช้ความรู้สึกล้ำลึกฝึกจิตจับจิตปัจจุบัน
ก้าวเข้าไปค้นหาและเมื่อพบแล้ว
ทุกสิ่งภายนอกนั้น
จะมิมีวันมากรายกล้ำมาทำร้าย
ให้เศร้าหมองครองจิตวิญญาณได้นานเนาอีกต่อไป


ดั่งตามรอยเท้าก้าวไปในเส้นทาง
ที่องค์พระบรมศาสดาของเรา
*องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า*
ที่ได้ทรงเพียรพบแล้วและ*ละ*วางไว้
ให้เราหาทางเพียรค้นหาด้วยตัวเอง
หากเกรงการเวียนว่ายวงกรรม
ย้ำการต้องเกิดมาชดใช้มิรู้สิ้นมิรู้จบ


สำหรับผม..มิเคยท้อ 
ผมเพียร..ผมฝึก...และรอ..มาเกือบตลอดชั่วชีวิต
เพื่อกระซิบบอกคุณและเพื่อนมนุษย์


ผม...ตั้งศรัทธา และเชื่อว่า
ทุกคนมีสิทธิ์ค้นหา*บานประตูนั้น* 
แค่ใช้กุญแจธรรมกุญแจทอง
ก็จะไขเข้า*บ้านภายใน*
ที่แสนใสงามว่างเปล่าไร้เงาใจไร้เงาใคร..
เป็นแก่นแท้..ภายในชื่อว่าความจริงนิรันดร์..
อันเกินกว่าหาคำใดมาอธิบาย..


และ
คนดี..
ผม..ขออภัย..
หากกรรมใดที่ผ่านมาที่ผมละล้าละลัง
ลากคุณลงมาเติมพลังแห่งความกลัวทุกข์
เติมตัวทุกข์ไร้สุขของผม


เพราะนะบัดนี้
ผม..ค้นพบสุขจากตัวตนผมเองแล้ว
และ
ผม..หวังเพียงจะบรรเลงบทเพลงโลกย์
ก็เพียงแค่สอนโศกตรมฝากไว้ให้เป็นเพียงบทเรียน


ให้ทุกดวงใจ...
รู้ทางหนีทีไล่เข้าใจเส้นทางกรรม
อันเวียนว่ายเศร้าหมอง
ครองดายเดียวเปลี่ยวเหงาวกวน


อย่า...
ได้ใช้ชีวิตอย่างเมามัวมืดมน
หลงทางห่างฝั่งฝันฝั่งนิพพาน
จง
เพียรพยายามใช้เมตตาธรรมดำรงร่าง
ให้อภัยตัวเองและเพื่อนมนุษย์ผู้ยังต้องดำผุดดำว่าย
เที่ยวท่องลอยละล่องในโลกกิเลส
ในสายธารกรรมย้ำรอยวน
คล้ายดั่งกมล*หลงโลกเวลา*ปล่อยให้เวลามีค่า
หายไปกับกาลอดีตและอนาคต..


ซึ่ง
มิใช่เป็นกฏแห่งความจริงแท้
และ
ทุกร่างนี้..เปรียบประดุจดั่งภาพมายา
ก็จักเป็นดั่ง..*อนิจจังอนัตตาดั่งเถ้าธุลี*
มิช้านานมิมีใครหนีกฎแห่งชรามรณะได้พ้น


หาก
จะเหลือเวลากับการใช้ลมหายใจแห่งปัจจุบัน
จงเพียรใช้...*พลังสายธารธรรม*
น้อมนำจิตแห่งความรู้สึกตัว
ผลักบานประตูสู่
*ดินแดนอันเป็นงามเงียบว่างนิรันดร์*
ที่ช่างแสนใกล้

 

ที่..ผม..แค่ขอก้าวเข้ามาแนะนำเคียงไหล่
ให้เราทั้งสองและผองชน
ได้ดับทุกข์ลบลืมสิ้นความหม่นหมอง
พบ*ความเป็นจริงแท้ในกายเราเอง*


ให้สมค่าคำ
ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้มีใจดวงพิสุทธิ์ใส
ได้เกิดมาภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา
ได้พบทางงามเจิดจ้าแห่งดวงชีวา
เกิดมาทันคำสอนของพระบรมศาสดาเอกของโลก
พระผู้ผ่านปรินิพพานไปแล้วตั้ง2500ปี


แต่ยังคงทิ้ง*แก่นความดี..ที่เป็นความจริงแท้*
ที่แสนยิ่งใหญ่..
ให้มนุษย์เรานั้นได้สร้างกุศล..
เพียรรักษาศีล ฝึกสมาธิ มีปัญญา

ให้พาหลุดพ้นผลพวงบ่วงกรรม..ดับทุกข์สิ้น
ดั่งมีบุญญา คู่กันมาชั่วกัลป์กัปป์กาล
ให้พ้นร้าวรานทุกภพทุกชาติไปนะคนดีนะดวงใจ


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด