16 มีนาคม 2550 09:38 น.

ดั่งมณีดวง..โชติจำรัสรัศมีพราย..เจ้าสายใจ..ณ...กลางใจ..!

พุด

8186_b1_051109113702.jpg
นับวันรอยอดดวงใจคืนเรือนรัก
สู่อ้อมตักสู่อ้อมใจในอ้อมขวัญ
จากแดนฟ้าจรดทรายหมายพบกัน
จากอันดามันมิแรมร้างอ้างว้างรอ

สายเอยสายใจ
ยิ่งใหญ่มหัศจรรย์อธิษฐานขอ
เพียงพร้อมหน้าสักหนึ่งวันก็สุขพอ
คือรักรอมานิรันดร์ถึงวันนี้

คือสายใยผูกร้อยดั่งสร้อยภักดิ์
คือสลักบุญกุศลชีพชนม์นี้
คือสายเลือดศรัทธางามนิยามดี
คือชีวีคือชีวันเจ้าขวัญดวง

นับวันรอ...สองดวงใจไกลครึ่งฟ้า
ในนิทราอิ่มสุขทุกข์ลาล่วง
โอ้ยอดดวงหฤทัยหนึ่งในทรวง
ดั่งมณีดวงโชติจำรัสรัศมีพรายเจ้าสายใจ...ณ..กลางใจ...!

......................................



8236_b1_060605164834.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
หนึ่งในร้อย..หนึ่งในทรวง

หนึ่งในทรวง!


ขอรจนาด้วยหยาดน้ำตาพลีณ..เบื้องหน้าพระพักตร์พระพุทธ
ณ..ลานวัดไชยวัฒนาราม..อยุธยา
ด้วยดวงใจเหว่ว้าไร้ใครเคียงใกล้เข้าใจ



เคยๆมั้ย....

ที่เธอเหน็บหนาวหนาวเหน็บในดวงใจเสียจนยากจะเอ่ยเผยใจ
บอกใครหรือแม้นอยากรำพึงรำพัน
นอกเสียจากนอนซุกร่างนิ่งงันนิ่งนิ่ง
อย่างอ้างว้างดายเดียวในดงหญ้า 
เฝ้ามองดูฟากฟ้าแสนสวยงามยามตะวันชิงพลบ
ยามสายัณห์ตะวันโพล้เพล้เพียงลำพัง
หรือนอนฟังบทเพลงแห่งวสันตฤดู 
ที่กำลังรินพร่างกลางกระท่อมดวงดอกไม้
ที่ไหนสักแห่งในหล้าโลก..ในโลกหล้า

ที่กำลังพร่างหยาดรินสายอย่างช้าช้า
กระทบหลังคาจาก
ฝากเสียงธรรมชาติพริ้งพราวเปาะแปะๆ
ให้ยิ่งหนาวใจ..จนสุดทน..แล้ว..!


เคยๆมั้ย....

ที่เธอแค่อยากหลบร่างห่างไกลผู้คน
ในวังวนวุ่นวาย ไปใช้ชีวิตอย่างเงียบงาม
ถีบจักรยานไปตามเส้นทางสายรวงข้าว
เฝ้าหยุดดูภู่ผึ้งบินว่อนร่อนถลา
ในบึงบัวหลากสีที่กำลังบานสะพรั่งพราว

หอมเร้าใจด้วยอวลแห่งเกสรไสว
ที่กำลังค่อยๆคลี่แย้มแก้มกลีบ
ให้ละอองทองผ่องพรายมากับสายลมในยามค่ำ
ที่นกไพรพากันร้องร่ำหาคู่
พากันโผผินบินกลับรังนอนอันแสนอบอุ่นพร้อมหน้า


เคยๆ...มั้ย

ที่เธอ..อยากเดินท่องไปในเส้นทางลูกรังสายเล็กๆ
ที่สองข้างคืองามแห่งทุ่งหญ้าไหวเอนระเนนล้อลม
ที่ราวกับเส้นทางทองทอทอดพาเธอให้ไปพลอดออเซาะ
กับละเมาะไม้..ใกล้ลำธารหวานระริน
คอยฟังเสียงระรินหลั่งของสายน้ำรักนิรันดร์

ที่กระซิกระริกรี่ไหลพร่างฝากเสียงที่ราวกำลังรำพันตัดพ้อ
 อ้อนเงื้อมผาโตรกธารฟัง ซู่ซ่า  เซาะไซร้ ซุกซิก ราวกระซิบคำรัก



เคยๆ....มั้ย

ที่เธอ..อยากไปนอนเงี่ยหูฟังเสียงสรรพสัตว์ระส่ำไพร
เสียงดนตรีธรรมชาติหวามไหว
ในเงื้อมเงาดวงตะวันสีแดง
แฝงให้หัวใจเธอแสนมีพลังหวังหวาน
ตระการด้วยความรักผืนหล้าผืนไพร 
ด้วยนวลใจที่แสนอบอุ่นกรุ่นด้วยความเข้าใจ


เคย..เคยมั้ย..!


ที่อยากเกิดมาเป็นผู้ให้
เป็นน้ำใจพร่างใสริน
ให้ผู้คนผองชนบนผืนโลกเดียวกันนี้
ที่มิได้มีดวงตาที่สาม 
งามดวงใจใครเล่ารู้ที่ช่อนชุกซึ้งสุขปิติอยู่ณ..ภายใน
เพราะมัวแต่ใฝ่หาเพียงปัจจัยสี่
เพียรเพียงหนีความยากไร้ ให้มีลมหายใจต่อไปวันๆ
ส่วนเธอนั้นแสนโชคดี 
ที่เกิดมากับดวงใจแผกพิเศษนี้
ที่ฟ้าดินสวรรค์เมตตาประทานมาให้
และ


เคย..เคยมั้ย..!

ที่เธอรู้คุณค่าของชีวิต 
รักความพอเพียงเพียงพอ
และราวกับรอเพียงพบฝั่งฝัน
รอพลีจิตนิรมิตราวบัวบานกลางบึงโลกเหนือโศกสุขทุกข์สิ้นทั้งปวง

มิหลงในบ่วงตมพันธนา 
มิหวังคว้าไขว่ในโลกวัตถุใด
อยากมีเพียงดวงจิตดวงใจดวงวาง ว่าง กระจ่างแจ้งดวงที่มิสิ้นแล้งไร้

หากอยากเพียงฝากไว้คือ ค่าแห่งความดี
พลีให้น้องพี่ทุกผู้
ที่คือพี่น้องร่วมโลกโศกชะตากรรมด้วยกัน
หวังพากันเพียรพบร่มแห่งยอดพระธรรมร่มพระรัตนตรัย
คืออัญมณีดวงใสดวงกระจ่าง
ดวงมากเมตตาอภัยแสนมีน้ำใจสวยใสแสนงาม
อันอยู่ภายในร่างใจเราเองใช่ใครใช่ไกล



เคยๆมั้ย....

ที่หัวใจดวงงามดวงดีดวงดิน
เพียงถวิลหวังแค่รจนางานงามใจงามธรรม
หวังระรินร่ำดับร้อนโลกรุนแรง
ให้เลิกพบเศร้า และได้พบพระพุทธศาสนา
ที่ดั่งคือดารารัศมีในกาแลคซี่
ที่แสนพร่างใสไสวสว่างฉ่ำเย็นเป็นอนันตกาล

ก่อนที่ร่างรานใจไร้จะฝากไว้
เป็นหนึ่งเดียวราวธุลีหล้า หาค่าอันใดมิได้
หากมิได้ทันไหวจิต
คิดเพียรพบพลังแห่งปิติเกษมบุญ
สร้างกุศลสมาธิรักษาศีลภาวนา
มิเบียดเบียนใคร 

นอกจากเฝ้าเพ่งเพียรสอนเพียงจิตใสในร่างใจของตัวเรา
ให้เลิกยึดมั่นถือมั่น
เลิกฝันเลิกหลงทางในทะเลโลกย์
ท่วมท่ามทุกข์ทนด้วยหยาดน้ำตา


เคยๆมั้ย...

ที่เธอ..เบื่อโลกโศกสิ้นเหลือใจแล้ว
อยากไปให้ไกลไกลแบบไม่พบพานผู้คน
ให้กมลได้อยู่กับความสงบเงียบงาม

ไปนั่งสวดมนต์ตรงหน้าพระพักตร์พระพุทธ
พิสุทธิปลั่งด้วยพร่างพราวรัศมีทองคำ
อันคือตัวแทนงามแห่งสัจจะธรรมล้ำค่าราวแสงธรรมธารทอง
ที่จะพาจิตเธอลอยล่องท่องสู่ฝั่งฝันอันคือนิรันดร์ว่างงาม

ราวสายธารธาราบุญกรุ่นหอมให้แสนพร่างใส 
ในน้ำพระทัยมากล้นพระเมตตาจากสายพระเนตร
ที่ทอดลงมาอย่างโอบเอื้อ ปลอบประโลม
ด้วย
ราวรับรู้ถึงจิตทิพย์และคำสวดมนต์อันแสนศักดิ์สิทธิ์
อันคือระรินร่ำอันฟังแล้วแสนไพเราะเสนาะโสตกว่า
เสียงจากคีตดนตรีกวีทิพย์บทใด 
ด้วยคือบทสวดจากนวลใจ
จากความถอดใจไม่ยินดียินร้าย
ฝากร่างไร้ใจราน
หวานโศกสุขทิ้งทุกข์ทุกอย่างวางไว้แทบเบื้องบาทจาริกา

หวังเกาะชายผ้าเหลืองเรืองรองผ่องผุด
เข้าสู่รอยธรรมรอยทางทอ
รอยแห่งวิมุติ
ที่จะพาหลุดพ้นจากวังวนแห่งบึงวิบาก

ให้ไปพบท่าทองลอยล่องไปสู่แดนดินแห่งงามว่าง
ไร้ร่าง
ไร้รักรัดร้อยใด
ไม่มี ไม่มี และไม่มีสุขไม่มีทุกข์
ไม่มีตัวไม่มีตนไม่มีเราไม่มีเขา
ไม่มีเหงา ไม่มีเสียใจ ไม่มี ไม่มีและไม่มี
นอกเสียจากความสงบงามสว่างสะอาดราวจิตใสดวงแก้ววิเศษ


เคยๆมั้ย..

ที่เธอร่ำไห้อย่างมิอายฟ้าดิน
เมื่อเธอนั่งนิ่งนิ่งลำพัง ณ..เบื้องหน้าองค์พระปฎิมา
ที่มีเพียงแสงฟ้าราวเรียวรุ้งสีทองผ่องพรายพร่างที่ช่างแสน
พรรณรายฉายทับทอด..ทอจับเงางามณ เบื้องหลังพระปฎษฎางค์
ในท่ามกลางความสลัวมัวหม่นจากมืดหมอกแห่งตะวันลาแห่งพายุร้ายชีวิต
ที่แค่พัดผ่านมาทดสอบ
ความหนักแน่นอดทนแห่งจิตใสใจดวงงามของเราเอง
ใช่ใครที่ไหนเลย


ที่ราวกับ
กำลังมาสอนบทเรียนชีวิต
มวลหมู่มนุษย์ในโลกหล้าที่ยามพบดายเดียว
เหว่ว้าจากคำพิพากษาใด 
หากใจยังคงมั่นมิหวั่นไหว
ราวตะวันในดวงใจยังสว่างใสพร่างพราว
ก็จะยังเฝ้าหมุนอยู่..
มิมีวันแตกดับลับลาหล้าไปกับกาลเวลา
ดั่งคือค่าคนอันเพียงเพียรเพาะบ่มงาม
สร้างความดีพลีเมตตาอภัยอันจักเป็นดั่งงามใจอมตะนิรันดร์........

.................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html
หนึ่งในร้อย..


พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย

รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...


				
10 มีนาคม 2550 07:17 น.

สลัก..ลึก..!

พุด

8237_b1_061215045142.jpg
http://www.salathaila.com/karakniran.html
รักเธอนิรันดร์


อษาวดีอีกคราแล้ว
ดวงดอกแก้วร้างต้นสิ้นไร้หวาน
กับทิวาวันผันผ่านราตรีกาล
กับรักรานแรมร้างอ้างว้างใจ

กี่วสันต์ฝันค้างให้เหว่ว้า
กี่สายน้ำตาอาวรณ์สอนอ่อนไหว
กี่รอยคำรักมั่นฝังฝากใจ
กี่สายใยตัดไม่ขาดพิศวาสรอ

เพราะ..
คือสายใจในกัปป์กาลเคยพันผูก
ดั่งเคยปลูกดอกไม้ภักดิ์เฝ้าเพ้อพ้อ
หากกุศลมิเทียมเท่าหนาวใจรอ
อธิษฐานขอกี่ภพชาติเล่าเจ้าดวงใจ

เสมือนหมายเดือนบนฟ้าไกลเกินฝัน
ภักดิ์นิรันดร์เพียงจำพรากฤาไฉน
มีเพียงหยาดน้ำตาเหน็บหนาวเฝ้าทำใจ
เก็บหฤทัยเฝ้ารอ..ก็สุขเกิน....ก็สุขพอ...!

.................................



เป็นบทรจนา แทนดวงใจ ใครคนหนึ่ง
ที่..
แม่ดวงดอกพุดไพร
แสนรักเอยแสนรักในกมล
และแสนเข้าใจ...
ใน..
ความไหวหวั่น หวั่นไหว
ราวขวัญหายในวันนี้ นาทีนี้..
ของผู้เป็นที่รักดั่งแก้วตาดวงใจค่ะ

แด่เธอ..
อัญมณีอันดามัน

ผู้ที่ขวัญเฝ้ารักเสมอมา เป็นนิรันดร์ค่ะ..
................................



http://www.salathaila.com/karakniran.html
รักเธอนิรันดร์
ศิรศักดิ์ อิทธิพลพานิชย์

Intro ...........  

ได้ยิน เสมอ นี่เธอ ใช่ไหม 
หรือเสียง ใบไม้ที่ไหวต้องลมเท่านั้น 
แม้ ว่าเราจะไกลห่างกัน แต่ในใจนั้นเราคิดถึงกันเสมอ 
จะนาน แค่ไหน ที่ในมุมนี้ 
ทุกวินาทีฉันยังคอยเฝ้า เฝ้ารอคอยเธอ 
ฉัน เฝ้ามองดวงดาวเสมอm 
ยังเห็นเธอส่งสายตาหากันเรื่อยไป 
ฟ้าอาจ จะพราก ให้เราจากกัน 
แต่ไม่ มีวัน พราก เธอนั้น จากใจฉันได้ 
ฉัน จะอยู่ เพื่อรักเธอ ตลอดไป 
แม้สิ้นลม หาย ใจ รักเธอ นิรันดร์ 

ดนตรี 8 Bar ..6..7 ...  

จะนาน แค่ไหนที่ใน มุมนี้ 
ทุกวินาทีฉันยังคอยเฝ้า เฝ้ารอคอยเธอ 
ฉันเฝ้ามองดวงดาวเสมอ ยังเห็นเธอส่งสายตาหากันเรื่อยไป 
ฟ้าอาจ จะพราก ให้เรา จาก กัน 
แต่ไม่ มีวันพราก เธอนั้น จากใจฉันได้ 
ฉัน จะอยู่ เพื่อรักเธอ ตลอดไป 
แม้สิ้นลม หาย ใจ รักเธอนิรันดร์ 
ฉันจะอยู่ เพื่อรักเธอ ตลอดไป 

แม้สิ้นลม หาย ใจ รัก...เธอ....






				
9 มีนาคม 2550 08:41 น.

หอม..หอม..อวล...นวลดอกไม้..ริมชายหมอน..!

พุด

8158_b1_061023230709.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song339.html
กระซิบสวาท



หอมเอยหอมกลิ่นการเวก
ราวมนต์เสกในคืนหวานเสน่หา
ดลดวงจิตสนิทนวลนัยนา
เกินจักกว่าหยาดน้ำผึ้งตรึงตรา

หากหอมใดไหนเล่าเท่าหอมภักดิ์
เมื่อตระหนักเนื้อแท้หอมยิ่งกว่า
หอมบุญหอมคุณความดีหอมศรัทธา
เนาปรารถนานิรันดร์เจ้าขวัญดวง

เคลียเคล้าภิรมย์ดอกไม้บูชา
นิทราลอยล่องสวรรค์สรวง
เกินกว่าทิพย์บุปผาทั้งหล้าปวง
ดั่งดาวดวงดารารายหมายนำทาง

คือทุกสิ่งแสนงามนิยามรัก
วางใจภักดิ์แทบเท้าจักหมายสร้าง
เคียงคู่ขวัญลบลืมโลกไร้ร้าง
ในเส้นทางธรรมทองหมายครองดี

ตราบชีพนี้...นิรันดร์..!

.......................................

อรุณรุ่ง กับฝันดี
ควานคว้าหมอนนุ่มมาแนบอกนวล
พบเพียงการะเวก 
ที่วางไว้ใกล้หมอน...กลีบกระจาย

หาก..ในจินตนาการ
ราวได้ยินเสียงพระเอกนักรบโบราณ
เฝ้ากระซิบร่ำพร่ำบอกความนัยอยู่ริมหู
*กลิ่นหอมใดไหนเล่า
จะเท่ากลิ่นการเวกยามฟ้าสาง
เสกหวานหว่านพรม
ห่มอยู่บนเรือนกาย นางผู้เป็นที่รักนิรันดร์...!!!

......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song339.html
กระซิบสวาท 

ยามนี้เธอนอน หัวใจร้าวรอน หรือเปล่า
โถคงทั้งซึมทั้งเซา เฝ้าตรมมิเบา ทรวงอยู่
เมื่อเธอฝากใจ ฉันมีเยื่อใย เอ็นดู
แต่วางท่าเฉย เพียงครู่ รั้งรอเพื่อดูใจกัน
เธอร้อนอารมณ์ พะวงหลงตรมเสียก่อน
แหมชาย นะชายแสนงอน เข้าใจหญิงรอน หรือนั่น
ผู้ชายอะไร น้อยใจก็เมิน ไปพลัน
ไม่รอ ให้หญิงจำนรรจ์ หญิงจึงอัดอั้น ตันใจ
จึงฝากลมพาพัดใจ ฉันมาซ่อนไว้ ใต้หมอน
เมื่อเธอซบหน้า แนบนอน
ได้ยินที่หมอนกระซิบ บ้างไหม
โปรดฟังถ้อยคำ สำเนียงที่ครวญ พิไร
เสียงกระซิบ กระซิบเผยใจ
สวาทอาลัย ท่วมท้นอาวรณ์
กระซิบเบาเบา หัวใจสองเรา เคล้ามั่น
ฉันเองรักเธอเหมือนกัน เฝ้ารอสัมพันธ์ ดังก่อน
หลับตาไม่ลง พะวงแต่เธอ ยามนอน
คร่ำครวญให้หวล มาวอน
หัวใจคอยอ้อน อิงเธอ

จึงฝากลมพาพัดใจ ฉันมาซ่อนไว้ ใต้หมอน
เมื่อเธอซบหน้า แนบนอน
ได้ยินที่หมอนกระซิบ บ้างไหม
โปรดฟังถ้อยคำ สำเนียงที่ครวญ พิไร
เสียงกระซิบ กระซิบเผยใจ
สวาทอาลัย ท่วมท้นอาวรณ์
กระซิบเบาเบา หัวใจสองเรา เคล้ามั่น
ฉันเองรักเธอเหมือนกัน เฝ้ารอสัมพันธ์ ดังก่อน
หลับตาไม่ลง พะวงแต่เธอ ยามนอน
คร่ำครวญให้หวล มาวอน
หัวใจคอยอ้อน อิงเธอ... 
 

 



8189_b1_051018054826.jpg				
8 มีนาคม 2550 11:21 น.

ลบระทมในแววตา..ฟ้าเปิดทาง...!

พุด

8238_b1_060531061102.jpg
หลับตานิ่งทิ้งทุกข์สรรพสิ่งไว้ภายนอก
โลกหลอนหลอกเรรวนมายาฝัน
กับกาลเวลาเคยซาบซึ้งตรึงผูกพัน
ทั้งคำมั่นคำลวงบ่วงดวงใจ

นั่นทะเลรอรับวิบากรัก
คลื่นจงพัดพายุฝันอันหวั่นไหว
ข้ามมหานทีสีทันดรอันกว้างไกล
รู้ทำใจรู้ทันเท่าหนาวพันธนาภักดิ์

ปลดปล่อยจิตให้วางกระจ่างแจ้ง
ให้สายธรรมแสงทองส่องประจักษ์
รักคือทุกข์ทุกข์คือรักนะที่รัก
กล้าหาญหักตัดเสน่หาอย่าตรอมตรม

แหงนมองฟ้าสิคนดีมีวันใส
เสมือนใจดวงงามผ่านขื่นขม
รอวันพบฟ้าสีทองหวังชื่นชม
ลบระทมในแววตา..ฟ้าเปิดทาง...พรหมเปิดทาง..!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song293.html
หนี้รัก 

หากจะรักแล้ว รักใคร ก็จง รักเถิด
ความรักบรรเจิด พริ้งเพริด หนักหนา
ชีวิตคนเรา นั้นสั้น เหลือคณา
อย่า รอ ช้า ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป
หากมีหนี้แล้ว ขอให้ เป็นหนี้ รักเถิด
ดอกเบี้ยที่เกิด คือพลังรัก พิไล
รักเธอเสมอ รักเธอ จากดวงใจ
ยอดพิศมัย หลอมอยู่ใน กาย เธอ
หากวันใด ที่แสงทองของ ชีวิตผ่าน
โลกตระการ จะมืดครึ้ม หมองเหม่อ
วาระนั้น จะได้อดีตไฟรักปรนเปรอ
หล่อเลี้ยง บำเรอ ต่อชีวิตให้ชื่น บาน
หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้ เป็นหนี้ รักเถิด
หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริด แสนหวาน
รักกันเสมอ แม้เวลา ผัน ผ่าน
สองเราสราญ เพราะหนี้รัก สลัก ใจ

หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้เป็นหนี้รักเถิด
หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริด แสนหวาน
รักกันเสมอ แม้เวลา ผัน ผ่าน
สองเราสราญ เพราะหนี้รัก สลัก ใจ... 
 





เส้นทาง..แห่งชีวิต..! ....ทวารวดี 


ทุกสิ่งในโลก...มนุษย์อยากเรียนรู้
เพื่อ..
เสพสุข หนีทุกข์ เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป...
แต่....
สุขหรือทุกข์นี้..อยู่ที่ใจ
เพราะ..
ผู้รับสุขและทุกข์ ที่แท้แล้ว..คือใจที่มีกิเลส หาใช่ตัวเราไม่

อยากมีสุขมากกว่าทุกข์ จะทำเช่นไร
พึงทำบุญมากๆกว่าทำบาป

และ..
ถ้าจะมีสุขอย่างเดียว ต้องทำเช่นไร
พึงทำแต่บุญไม่ทำบาป

ถ้าเสพสุขนานๆแล้วจะเป็นเช่นไร
ก็จะเริ่มทุกข์จากน้อยไปหามาก
เพราะ...
ต้องการเสพสุขที่ละเอียดมากขึ้นๆ
นั่นคือ...
การสั่งสมกิเลส เช่นนั้น
สักวันหนึ่งก็จะเริ่มก่อกรรมทำบาป 
เพราะ...
เสพสุขมากเกินไป 
ขว้างวิบากไปรอไว้ในอนาคต 
รอวันชดใช้ เช่นเดิม เหมือนเดิม ซ้ำๆซากๆ
เป็นมายาวนาน นานแสนนาน

พึงละการก่อกรรม
ยามเสวยกรรม ก็รู้ทุกข์ จักพบธรรม
ยามเสวยสุข จงมีสติรู้อยู่ว่า ไม่เที่ยง 
มีได้ก็หมดได้.....
พึงอ่อนน้อมถ่อมตน สั่งสมบุญต่อไปอย่าได้ขาด
จน...ละกิเลสได้เบาบาง

ต่อไปนี้ทุกข์ก็ไม่เที่ยง สุขก็ไม่เที่ยง 
ไม่ใช่เรา เป็นเพียงกิเลสเกาะเกี่ยวพัวพัน 
พึงสลัดได้ ด้วยสติสัมปชัญญะ 
มีโพธิปักขิยธรรม ๓๘ ประการ 
เป็นเส้นทางปฎิบัติแห่งการหลุดพ้น

อธิษฐาน ข้ามภพชาติ เช่นนี้เรื่อยไป 
อาจบรรลุสัจจธรรม สู่นิพพานได้เป็นแน่แท้..
แล...
จักสงบสุขตราบชั่วนิรันดร์ ....!!!! 
 ..................................................


หยุดคิด เสียทีดีไหมเธอ 

ค่ำคืนนี้ จันทร์ครึ่งดวง ลอยเอียง เคียงคู่ฟ้า ยามราตรี 
แสงจันทรา นวลละออ ทอแสง ขับความมืดหม่น บนผืนฟ้า 

อากาศ....ร้อน...อบอ้าว ไร้ลมรำเพย 
แต่...ใจดวง..กลับสงบงาม นิ่งฉ่ำเย็น อย่างน่าแปลก 

จันทร์ครึ่งซีก กำลังสอนใจ ใครบ้างล่ะหนอ.....
ที่กำลังอยากแบ่งปันฝันฝากใจไปกับ 
มวลหมู่ดาราบนฟ้ากว้าง......... 


จันทร์ครึ่งซีก รอวัน....บานเต็มดวง......
เหมือนทุกดวงใจ รอบานเบิก ดังบัวในบึงกว้าง 
ที่รอบาน..หวานแย้ม...รับแสงอาทิตย์อุทัย 
และ ..
ดั่งใจเราที่รอแสงธรรม แสงทอง ส่องใจ 
ให้...
หยดน้ำค้างบนใบบัวและหยดน้ำตาในใจเรา 
มลายหายไปกับแสงอรุณรุ่ง...เพื่อชีวิตนี้ 
ที่มิมีวันมอดสิ้นหวัง 
ขอ..
แค่เพียงเติมต่อ คิดดี ทำดี มีรัก ใช่ไหมเล่าเธอ....... 


จันทร์กระจ่างฟ้า กระจ่างใจ สว่างไสว 
เปรียบดังยามใจเราเป็นสุข 
ยามเราทุกข์ ดังจันทร์แรม 
รักก็แรมร้างลา พาใจให้มืดหมองหม่น..... 

ธรรมชาติของจันทรา และดารางาม 
หมุนเวียนเปลี่ยนผัน กำลังสอนใจเรา 
ให้ยอมรับความจริงแท้ แน่นอน....นะดวงใจ 


ดวง....หยิบหนังสือ บนหัวนอน เพื่อนคู่ยากหลากหลายเล่ม

ก้าวรักในรอยจำ..A  WALK TO REMEMBER
หอมกลิ่นภูเขา..ของสร้อยแก้ว คำมาลา
ไร้พรมแดน...ของลาวคำหอม
และ..
โลกสีน้ำเงิน ของอัศศิริ มาประโลมใจ
ไปกับคืนค่ำนี้ ที่จันทราท้าแสงนวล 
โลมไล้หมองหม่น บนฟากฟ้า..... 


แลลอดผ่านหน้าต่างบานกว้าง 
ผ่านใบจำปี กวัดไกว ไหวลม 

แสงทองอาบส่องยอดไม้มา 
เยือนแย้มยิ้มอยู่ ภายในใจ ดวงงามยามนี้ ให้ใสงาม ฉ่ำเย็น.... 

แสงจันทร์อาบกายให้แสนหวานละมุน 

และ.....
ดวงกำลังหยิบ หนังสือของ..หลวงพ่อเทียน... 
ที่ดังแสงเทียน แสงทอง ส่องสว่าง 
อาบเส้นทางใจ ให้แสนสงบงาม ไปตามกัน..... 

แสงจันทร์...แสงธรรม..แสงเทียน 
กำลังหลอมละลายให้ดวงนอนหลับฝันดี ในราตรีนี้ 
ที่เราทุกคนมีสิทธิ์ เลือกอบร่ำ พร่ำบ่มใจ 
เพื่อเอิบงาม ได้เท่าเทียมกัน..... 


คิด.....ไปทำไมเล่า..
คนเรานั้นคิดอยู่เสมอ เหมือนดังกระแสน้ำ 

การหลงติดกับความคิด ก็เหมือนกับ 
การตักน้ำมาเก็บไว้ 
แต่...ถ้ามีสติรู้เท่าทันความคิดนั้นๆ 
ก็เหมือนน้ำไหลมา แล้วก็ผ่านไป... 
การหลงติดในความคิด ทำให้เกิดทุกข์......... 


หยุด... ให้เป็น..ทันที ที่คิด 
จับดวงจิตที่คิดเพ้อให้หยุด..ให้ทัน..ท่วงที 
มิมีสานต่อ ก่อตรมระทมทุกข์ 

โอ้ดวงใจ.....คนดี...
ไม่ว่ายามนี้ อยู่หนใด 

คิดดี คิดร้าย คิดหมาย คิดมั่น คิดฝัน คิดปอง คิดอยากลอง 
คิดอยากเล่น คิด......คิด....คิด....จะตาย จะเป็น ใครเล่ารู้.....
นอกจาก..
ใจเราดวงนี้ที่ทุกข์ทน...เกินทาน. 


ดวง....ขอวอน...ด้วยใจดวงนี้ 
ที่พลีให้ เพื่อนร่วมโลก ลดโศกเศร้า รานร้าวฤดี 
ด้วยค่ำคืนนี้ ที่แสนงาม 
ผ่าน..
จันทร์เสี้ยวดวงเศร้า 
ทุกคราครั้งที่นั่งมองนะคนดี ที่แสนรัก.......
..........................



8129_b1_061023225554.jpg				
7 มีนาคม 2550 00:09 น.

มงกุฎดอกเศร้า..!

พุด

8233_b1_060316071236.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3577.html   


นอนนับดาวเหนือเนินผาในวันหนาว
ทะเลเศร้าสายหมอกพรมห่มพรายพร่าง
ฟ้าพยับโพยมจันทร์เต็มดวงลอยอ้างว้าง
เอนอิงร่างรับรินร่ำฉ่ำหวานใจ..

เปิดดวงใจภายในฟังงามเงียบ
น้ำค้างเฉียบรินรดระริกไหว
หนาวแสนหนาวร่างเร่าร้อนใกล้ดวงใจ
ปิติใจจนน้ำตาช้าช้าริน..

จากเรียวตาสู่เนียนแก้มนวลหมองหม่น
หอมกลิ่นคนในอดีตสายถวิล
มือสากสากประคองไล้น้ำตาริน
จูบนวลสิ้นละเมียดร่างมิร้างลา..

ลั่นทมปลิดปลิวพลิ้วดอกลอยควะคว้าง
คนดีพลางประคองหอมเสน่หา
กระซิบรักร้อยมงกุฎดอกไม้ให้แก้วตา
อย่างช้าช้าลูกผู้ชายบรรจงทำ..

แกมเกศเกล้าพราวดอกไม้งามมงกุฎ
โลกยังหยุดมองดูบทเพลงร่ำ
จันทร์โปรยสายหวานน้ำผึ้งซึ้งใจจำ
คืนโชนหวังจันทร์โชนแสงเติมแล้งใจ..

มงกุฎลั่นทมฝากระทมถึงคืนนี้
เมื่อคนดีตอกย้ำจำได้ไหม
นานเกินรอรักนิรันดร์ฝันค้างใจ
รับบทใหม่ใส่มงกุฎหนามมงกุฎดอกเศร้าเฝ้าทิ่มแทง!

......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3577.html
มงกุฎดอกส้ม   

ผิดหรือไร
เมื่อใจหนึ่งดวงนี้
อยากทะยาน ให้ไกลดังใจฝัน
ผิดก็ยอม
ไม่เคยเสียใจ ในความเป็นไป
ขอเพียงมีสิทธิ์รัก เท่านั้น
แหละหัวใจ ไม่เคยจะยอมแพ้
เจ็บเท่าไร ไม่เคยจะหยุดฝัน
ผิดก็ยอม
จะเป็นหรือตาย เอาใจเดิมพัน
ขอเพียงมีวันหนึ่ง
ฝันจะเป็นจริง
สวมชุดเจ้าสาว ขาวบริสุทธิ์
สีของความมั่นคง ในรักแท้
รอคอยเพียงเธอ
ไม่เคยเปลี่ยนแปร
จะขอรอเพียงแต่เธอ ผู้เดียว
ผิดหรือไร ถ้าคนหนึ่งคนนี้
จะรักใคร สักคนสุดชีวิต
ผิดก็ยอม
เมื่อใจรักเธอ เพียงเธอคนเดียว
แม้จะนานเท่าไหร่ ฉันยังรอเธอ

สวมชุดเจ้าสาว
ขาวบริสุทธิ์
สีของความมั่นคง ในรักแท้
รอคอยเพียงเธอ
ไม่เคยเปลี่ยนแปร
จะขอรอเพียงแต่เธอ ผู้เดียว
ผิดหรือไร ถ้าคนหนึ่งคนนี้
จะรักใคร สักคนสุดชีวิต
ผิดก็ยอม
เมื่อใจรักเธอ เพียงเธอคนเดียว
แม้จะนานเท่าไหร่
ฉันยังรอเธอ... 





8235_b1_060316075038.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด