19 มีนาคม 2550 22:55 น.

ไท..ทรนง..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song716.html
บ้านของเรา 

บ้าน คือวิมานของเรา
เราซื้อเราเช่า
เราปลูกของเรา ตาม ใจ
ย่อมเป็นสถานทิพย์วิมานพอหาได้
เป็นที่เกิด ที่ ตาย
ที่เราสร้างเอาไว้คอยท่า
บ้าน คือวิมานของ คน
ถึงแม้ยากจน
ก็ต้องดิ้นรน
อย่าจนปัญญา
หาบ้านสักหลัง
ที่พอประทังชีวา
เพื่อสนิทในนิทรา
ให้ตื่นมามองโลกชื่นใจ
บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง
มีเสียงระฆัง
จากกังสดาลพริ้งไป
มีสวนไม้ดอก
ผลิบานก้านกอช่อใบ
มีความรัก มีน้ำใจ
มีให้อภัย มีกรุณา
บ้าน คือวิมานของเรา
ยามพบความเศร้า
รีบกลับบ้านเรา
จะเปรมปรีดา
เพราะบ้านมีรัก
น้ำใจอภัยกรุณา
คอยเราอยู่ทุกเวลา
ในชายคาเขตบ้านของเรา

บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง
มีเสียงระฆัง
จากกังสดาลพริ้งไป
มีสวนไม้ดอก
ผลิบานก้านกอช่อใบ
มีความรัก มีน้ำใจ
มีให้อภัย มีกรุณา
บ้าน คือวิมานของเรา
ยามพบความเศร้า
รีบกลับบ้านเรา
จะเปรมปรีดา
เพราะบ้านมีรัก
น้ำใจอภัยกรุณา
คอยเราอยู่ทุกเวลา
ในชายคาเขตบ้านของเรา... 
 ...............




ราตรีนี้ฟ้ายังไร้แสงแห่งจันทร์เพ็ญ
ฟังบทเพลงบ้านของเรา
ด้วย..ความรู้สึกดื่มด่ำล้ำลึก

หอมการะเวกแผ่วผ่าน
บานกระจกกว้าง..ลอดไล้มา..โลมใจ
ให้แสนชื่นใสงาม

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
พร้อมกับ...
ปลายสายระบายบ่นรำพึงรำพัน
ถึงฝันร้ายแห่งโลกมายา
*โลกของงาน*
ที่..
พานพบว่ามีเพียงพากันแย่งชิง..ทำร้าย
หมายเหยียบบ่าเหยียบไหล่ 
ก้าวขึ้นไปสู่ความมีอำนาจวาสนาบารมี
หาก..
ไร้สิ้นความเมตตา แบ่งปัน โอบเอื้อ
เพื่อผดุงยุติธรรม ให้แผ่นดินนี้
ได้รับประโยชน์โภชน์ผลสูงสุด
ให้..
สงบร่มเย็นเป็นสุข 
กับความสมานฉันท์สามัคคี
ใช่...!
แค่ชิงดีชิงเด่น แบ่งพรรคแบ่งพวก
จนชาติย่อยยับอัปราชัย
ก็..
หาได้ตระหนักไม่...



ใจดวงนวล จึงหนาวเหน็บเหน็บหนาว
เศร้าราน
ไปกับผู้เป็นที่รักแลกับโลกย์กิเลสนี้
ที่คงทำหน้าที่ได้เพียงให้หยาดน้ำค้างคำ

ระร่ำรินธารน้ำใจใสเย็น 
ปลอบปลุกประโลมให้ลุกขึ้นสู้ความอธรรม 

น้อมนำความถูกต้อง
ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน
อย่างคนที่มีดวงกมลเหนือโลกเหนือโศกสุข
เหนือ..ทุกข์แห่งความอยากได้ใคร่มี
อย่าง..
มนุษย์ผู้ที่มีปัญญาถึงพร้อม
ผู้รู้สึกตัว รู้ทันเท่า..
เฝ้าพัฒนาเพาะบ่มห่มหอมด้วยสายแสงธรรมแสงทอง
ให้จิตวิญญาณผ่องพรรณรายฉายรัศมีบุญ
ดั่งบัวบานเหนือน้ำ..พ้นน้ำ..
 ตระการชูช่อ
พ้นหมองมัวมลทินใด มลทินใจ..



ในเดียวดาย 
กับสายธารแห่งการต่อสู้ของมวลมนุษยชาติอันแสนเชี่ยวกราก
หลากหลาย ร้ายแรงขึ้นทุกวี่วัน 
ให้..
ผู้คนบริสุทธิ์พากันขวัญหาย
คล้ายความโหดร้ายทำลายคือเรื่องปกติธรรมดา
จนน่าเหว่ว้าเศร้าใจ..แสนโศกสะเทือน....

ดวง..ได้เพียงสวดมนต์อธิษฐานจิต
ภาวนา..
ให้ทุกชีวิตในผืนดินไทยและผู้เป็นที่รัก
ได้พบกับความสะอาดสว่างสงบ 

สยบความแล้งไร้เร่าร้อน
ไปทุกหย่อมหญ้า ในยามนี้...


ที่..แท้เล้ว
คือ..
แผ่นดินแม่...

แผ่นดินอุดม..ที่ให้อิสรา
ให้..
หัวใจได้พบพระพุทธศาสนา
ได้เกิดมา...
ในร่มฉัตรเพชรพระบุญญา
แห่งองค์พระพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย

ให้สองขาเราได้หยัดยืนอย่างทรนง
ให้เรายังคงเงยหน้ามองฟ้าดินได้อย่างเต็มตา

ให้ในน้ำยังมีปลา ในนายังมีข้าว
ให้..
ยังมีสาวหนุ่มผู้ยังคงรู้คุณค่า

รู้..รักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย
ที่หลอมละลายใจให้เรารู้สำนึกแสนรัก
ในวิถีทองวิถีทุ่งวิถีธรรม


เพียงเพื่อ..
มาบ่มร่ำน้อมนำให้เราแสนภาคภูมิปิติ
ว่า..
ลูกหลานเหลนโหลนไทยนี้..

ใช่ทาสใคร...!!!!

..........................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song510.html
แผ่นดินของเรา 

แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา ชาติไทย
ใกล้ไกล
ย่อมเป็น ของเรา ชาติไทย
เลือดไทยไหลโลม ลงดิน
ใครหมิ่น ศักดิ์ศรี คนไทย
ย่อมมีวัน สักวัน ให้ไทย
ล้างใจ อัปรีย์
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา อยู่ดี
ที่ใด ย่อมเป็นของไทย อยู่ดี
หากเชือดเฉือนไป คราใด
ย่อมแสน หวั่นไหว ชีวี
ปฐพี แหลมทอง ช่วยกัน
คุ้มครองป้องกัน

แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา อยู่ดี
ที่ใด ย่อมเป็นของไทย อยู่ดี
หากเชือดเฉือนไป คราใด
ย่อมแสน หวั่นไหว ชีวี
ปฐพี แหลมทอง ช่วยกัน
คุ้มครองป้องกัน
สัก วันต้องคืนกลับมา
มั่นใจ เถิดหนา
ขอพลี ชีวารักษาชาติไทย
ชาติไทยคู่ฟ้า
เลือดทา แผ่นดิน... 
......................
 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html
บ้านเรา 

บ้าน เรา แสน สุขใจ
แม้จะอยู่ ที่ไหน
ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา
คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา
ด้วยพระบารมีล้นเกล้า
คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์
รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง
พริ้วแดดส่อง สดใส
งามจับใจ มิใช่ฝัน
ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน
ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น
หอมทุกวัน ระบือ ไกล
บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น
ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้
จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า
เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ
ขอวานหน่อยได้ไหม
ลอยล่องไป ยังบ้านเขา
จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว
ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า
ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย... 

				
19 มีนาคม 2550 09:43 น.

สิ้น..สร้อยสวาท..พันธนา..!

พุด

8230_b1_060516193311.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song255.html
สายสร้อยร้อยใจ 



ในโยงใยรัดร้อยสร้อยเสน่หา
กับป์กาลเวลารอคอยมิรู้จบ
กี่รอยช้ำกำศรวลมิถ้วนทบ
กี่ชาติภพที่ต้องพรากจำจากกัน

คือสัญญาแห่งอดีตกรีดรอยแผล
ดั่งดวงแดเดียวดายแค่หมายขวัญ
วิปโยคโศกสะเทือนเกินรำพัน
เหลือเพียงฝันลมลมตรมน้ำตา

อธิษฐานกรานกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จงนิรมิตคลาดแคล้วบ่วงเสน่หา
ให้เส้นทางภักดิ์ขนานตราบชั่วฟ้า

ทั้งชาตินี้ชาติหน้า...นิรันดร์...!

....................



ในสายแสงตะวันโพล้เพล้บนตึกสวยสูงตระหง่านง้ำ

ดวง..ทอดตาแลลงไปเบื้องล่าง...ละลิบ
เห็นชีวาชีวิตทุกข์ผู้คน ต่างดิ้นรนสับสน แสวงหา...

ทุกชีวีปรารถนาปัจจัยสี่แห่งการดำรงชีพชอบ

เหนือฟ้า...
มีดวงตาสวรรค์ เฝ้าดูทุกความฝัน ความหวัง
ด้วย...
ความเข้าใจด้วยความเมตตากรุณา

หากทว่า...
จะทำฉันท์ใดได้เล่า..
ที่...
จักดลบันดาล
ให้..
*ทุกปราณปรารถนา*..
ได้พบความสุขสม..รมณีย์..ถ้วนหน้า

นอกเสียจาก...
*บุญทำกรรมแต่ง..*

แล..
สวรรค์..มิได้แกล้งเมินเฉยดอกหนา..เจ้ายอดดวงใจ
คงมอบรางวัลยิ่งใหญ่...ให้..

หาก..
เจ้า..ได้ใช้ทุกลมหายใจ
เพื่อ..
เพียรทำความดี
พลีแด่แผ่นดิน
แล..
ผองชน..
รวมทั้งผู้เป็นที่รักภักดิ์พลีอย่างที่สุดแล้วนะเจ้าแก้วขวัญจอมใจ..!




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song255.html
สายสร้อยร้อยใจ 

สายสร้อยร้อยใจสายใยสวาทหมาง......
ขาดหลุดสุดหนทาง....
รักจางตรอมตรมไม่หาย.....
โอ้ใจเอ๋ยไหนเลยมาหน่าย...
ฟ้าดินแม้สิ้นสลาย รักมิคลายรักสุดบูชา...
สายจิตร้อยทรวงใยลวงหลอกหลอน...
อกสั่นหวั่นร้าวรอน ยามกินยามนอนผวา.....
ภาพความหลังนั้นยังเตือนตา....
น้องคงมิปรารถนารักจึงลาระทมตรมใจ...
ที่แท้เจ้าไม่แลเหลียวมองมาเลย.....
อกเอ๋ยไปชื่นชมหลงคารมใคร....
พี่รักใช่หลอกลวงรักเต็มทรวงใน....
รักซ่อนซ้อนใจห่วงหรือไรทิ้งพี่ให้ตรม....
สายโซ่คล้องใจสายใยสวาทหมาย....
พี่อยู่ก็เหมือนตายมีกายไร้ใจชื่นชม...
สร้อยใจหายรักกลายเป็นลม....
เหลือรอยสายสร้อยขื่นขม...
ร้อยอารมณ์ระทมตรมทรวง....





				
18 มีนาคม 2550 11:02 น.

คือ..ดวงใจ..!

พุด

8189_b1_070101230414.jpg

แล้ว..
โลกเงียบงามนิยามว่าง
ก็กระจ่างแจ่มจิตสนิทขวัญ
ในท่ามคืนจันทร์เสี้ยวลอยเงียบงัน
ในท่ามฝันสลายลับรับร้าวราน

คือศักดิ์ศรีคุณธรรมนำชีวิต
คือลิขิตจากพรหมชะตาให้กล้าหาญ
ถอนน้ำผึ้งพิษเคยจารจิบมาช้านาน
สิ้นมนต์มารผลาญค่าคนจนสิ้นใจ

อาจจะเจ็บอาจจะปวดอาจรวดร้าว
อาจจะเศร้าอาจจะโศกเกินคำไหน
อาจจะหนาวดายเดียวสิ้นไร้ใคร
อาจจะเสียใจเสียขวัญ..รอ..วันลืม...!

..........


8274_b1_061226144348.jpg
เธอคือแก้วตาดวงใจใสพิสุทธิ์
เธอคือที่สุดแห่งรักภักดิ์ของขวัญ
เธอคือดวงดอกไม้บานหวานหอมเป็นนิรันดร์
เธอคือจันทร์อันสกาวลบหนาวใจ

เธอคือสายรุ้งแสนงามประดับฟ้า
เธอคือมวลผกาทั้งโลกบานไสว
เธอคือหยาดน้ำค้างกลางกลีบดอกไม้ใจ
เธอคือทะเลกว้างใหญ่แสนงามทุกยามยล

เธอคือไฟแห่งชีวิตเติมพลัง
เธอคือหวังงดงามยามสับสน
เธอคือสายลมแห่งชีวิตพร่างกมล
เธอคือคนแห่งศรัทธาฟ้าประทาน

เธอคือธารน้ำใสไหลเย็นในพฤกษ์ไพร
เธอคืองามดวงใจแสนกล้าหาญ
เธอคือยอดอัญมณีตราบชั่วกาล
เธอคือหวานดับแล้งไร้..ให้..เพียงรัก

เธอคือลมหายใจแห่งชีวิต
เธอคือลิขิตจากพรหมซึ้งสลัก
เธอคือใครใครคือเธอเล่ายอดรัก
หวัง..
เธอประจักษ์รักแท้นี้...ที่นิรันดร์...!!!




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html
อันเป็นดวงใจ 

ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ
โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่
เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า
เหมือน ดังแสงสุริยา
สาดแสงส่องพื้นภพหล้า ลงมาจูบทานตะวัน
เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง
เทิดทูนความรักสูงส่ง
ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน
หวัง ใจได้คู่เคียงกัน
ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท
เป็นทาสความรักเสมอ
อันเป็นดวงใจมานานแรมปี
เป็นราชินี แห่งใจฉันนี้คือเธอ
ทุกๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ
จิตใจพร่ำแต่เพ้อว่า รัก รักเธอรักจริง
ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา
ไม่เคยจะคิดเลยว่า สัญญาแล้วจะทอดทิ้ง
เห็น ใจฉันบ้างยอดหญิง
มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง
ด้วยความสัตย์จริงเสมอ
แด่เธอ ผู้เป็น ดวงใจ... 
 

8107_b1_061226154617.jpg				
17 มีนาคม 2550 22:44 น.

เกลียวคลื่น..กระซิบ..!

พุด

V261682.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น 



พี่พุดครับ

ที่หนาวเหน็บเจ็บช้ำเกินรำพัน
คือคืนวันฝันสลายกลายเป็นตรม
รักเคยชื่นกลับกลายเป็นขื่นขม
เคยภิรมย์สมรักกลับพังภิณท์...

รำลึกถึงพี่สาวที่แสนรักครับ...

จากรอยหมึก...ทราบว่าพี่พุดกลับบ้าน

เป็นอย่างไรบ้างครับ 
กับการไปชาร์จแบตครั้งนี้ 
หาก..
ไม่เป็นการรบกวนพี่สาวที่แสนดี 
เล่าให้น้องชายที่ทุกข์ตรมคนนี้ฟังบ้างสิครับ

ผมรักมาลัยรักอักษราของพี่พุดครับ

................


น้องชายคนดีที่แสนน่ารัก

พี่พุดเพิ่งกลับจากพะงันค่ะ
และ..
เที่ยวนี้ดวงชีวีพี่พุดก็อิ่มเต็ม ค่ะ
มาตรแม้น..
ดวงจันทราที่นั่นยังไม่เต็มอิ่มพูนดวง
พาลอยล่วงพ้นผืนน้ำทะเล..ระยิบระยับ
ยามอาบด้วยพรายแสงจากสายธารน้ำผึ้งพระจันทร์ผ่องพรรณราย
เหนือฟากฟ้าทะเลฝัน
อันพร่างพราวด้วยมวลหมู่ดารารายดาระดาดแสนสุกใส
ดูใกล้แสนใกล้จนแทบเอื้อมมือคว้าไขว่ได้เลยค่ะคนดี


พี่พุด..เดินริมชายหาด
ที่ลมพัดแรงราวแกล้งให้หนาวเนื้อ...หนาวนวลค่ะ
แล..
โลกของพี่พุดที่ชอบสวนกระแสโศกสุข..
ก็...
กลับแสนสงบเงียบงาม ในท่ามปาร์ตี้ริมหาด
ที่กำลังอึกทึกครึกโครม ด้วยความเมามันส์ 
น่ากลัวเสียจนขวัญจะหาย

หาก..
นี่คือธรรมดาชีวิต ธรรมดาชีวี
แห่งวัยวันของการเสาะแสวงหาความสุขของคนรุ่นใหม่
ที่มาจากต่างแดนแสนไกล*เมืองศิวิไลซ์วัตถุ* คนละทิศคนละทาง
บ้าง....
อาจจะกำลังค้นหาเส้นทางแห่งประสบการณ์เพื่อสร้างตัวตน
ตราบจนกว่าจะค้นพบว่า
*สุขใดเกินกว่าความสงบเป็นไม่มี*


พี่พุดปูเสื่อเหนือเนินทรายสวยแล้วก็ปล่อยร่างระทวย
นอนดูดาววะวาววับ แสนสุกใสสกาว
เห็นดาวพระรัตนตรัย แสนไสวเกษมเลยค่ะ

พร้อมนั่งทานข้าวฝีมือน้องสาวคนดีที่มีครัวเคียงทะเล
แกล้มเสียงเกลียวคลื่นซัดฝั่ง
ดังเป็นระลอกระลอก...
ค่อยๆทะยอยทอยทอดเคลียเเคล้า
เล้าโลมปลอบปลุกผืนทราย
หมายมั่นสัญญาจะไม่มีวันทิ้งทอด
และจะ..
โอบกอดอย่างสัตย์ซื่อถื่อมั่น..
ไปตราบ...
จนอนันต์นิรันดร์โลกมลาย....



พี่พุด..ได้ปีนเขาขึ้นไปสู่*วิมานลอย*
ที่ดินพี่พุดที่ลอยละลิบ
ให้แลลอดทอดทัศนาเห็นเวิ้งอ่าวสามด้าน
ปานวิมานเมืองแมนแม่นแล้วค่ะ
...............


และ..
พี่พุด...
ได้ไปนั่งนิ่งนิ่ง..เหนือที่ดินอีกที่ของพี่พุดค่ะ
ชื่อ*วิมานวนา*ในท่ามฟ้าโพล้เพล้

แล้วก็
ตกอยู่ในภวังค์ฝัน ฝัน ฝัน แสนหวาน
ไปกับดวงตะวันสีแดงแช๊ด
ที่กำลังอ้อยอิ่งอ้อนอำลาผืนน้ำทะเลตรงหน้า
ระหว่างเกาะแตนอกกับแตใน

ในท่ามมนต์ม่านเมฆวิเวกสงบหากแสนงดงาม
ด้วยรัศมีสีรุ้งแสนจรุงจรัสใจ
ณ..ลานศิลาวัดเขาถ้ำ
ที่มีต้นลั่นทมโผล่อยู่ในแง่งหินงาม บานสล้าง
ระร่ำรินมาชั่วนาตาปี
เป็นดอกไม้รักอมตะนิรันดร์
ที่เปรียบประดุจดั่งตำนานฝันพะงันงามมานานช้าแล้วค่ะ


พาให้หยาดน้ำตามาคลอครองเต็มนัยน์ตา
เมื่อโหยหาหวนไห้
รำลึกนึกถึงอดีตยามวัยเยาว์
ที่..
เคยพาร่างมานั่งเงียบเหงาอย่างเหว่ว้า
เพื่อรอท่าดูดวงตะวันลา 
ดูทะเลกว้างใหญ่จรดขอบฟ้าแลละลิบ เบื้องล่าง
อย่างอ้างว้างดายเดียว..เดียวดายเป็นที่สุด



และ..
กับฉากสุดท้าย ท้ายสุด
ที่..
พี่พุดนั่งมองฟองคลื่นสีขาว
แตกพรายกระจายไปรายรอบลำเรือ
ที่..
ค่อยๆพาร่างพี่พุด ให้พรายพลัดพรากจำจากลา
มาไกลบ้านอีกคราและอีกครา

และ..
คงนานเนา..
ตราบจนกว่า...คำอธิษฐานภาวนาจะเป็นจริง.!



กระท่อมไพรบนเนินผาท้าสรวงสวรรค์
มีทะเลฝันตรงหน้าให้คว้าไขว่
มีดาวสวยทรายขาวหาดยาวไกล
มีน้ำใจมีความรักมีดวงตะวัน....

ยามเช้านอนดูดวงดอกไม้มาทายทัก
หวังยอดรักคืนอ้อมใจในอ้อมฝัน
ลมทะเลเห่ครวญรำพึงรำพัน
ดุจสวรรค์บนดินถิ่นรักเรา

รอเรือหาปลาลำน้อยค่อยคืนฝั่ง
ฝากใจหวังพรานทะเลคงไม่เหงา
ใครบางคนเฝ้ารอมานานเนา
คืนว่างเปล่าเขากลับมาหาเสียที

ใจดายเดียวดูตะวันผันเรี่ยน้ำ
ฟ้าสีครามงามดั่งทองอาบแสงสี
จุดตะเกียงเขียนกลอนฝันมอบวันดี
กระท่อมไพรนี้มีใจภักดิ์เฝ้ารักรอ

แสงพริบพราวราวไฟในทะเลกว้าง
แสนอ้างว้างห่างแค่ไหนใจไม่ท้อ
กี่คืนฝันกี่วันปีที่รักรอ
กระท่อมซอมซ่อผุพังฝังร่างนี้ที่รอรัก ..รอพรานทะเล!


ท่ามกลางจันทร์ลอยดวง ดึกดื่นดายเดียว..
นะกระท่อมน้อยเชิงผา
ในราตรีหนึ่งที่ระดะดาวพราวพร่างสุกใสแสนใกล้

ราวกับจะเอื้อมคว้าไขว่มาประดับใจได้
พุดพัดชานั่งฟังเสียงคลื่นสะท้อนจากก้อนหินริมฝั่งทะเล
ราวกับเหว่ว้าเสียเต็มประดากับการรอคอย..พรานทะเล..ที่พรากไกล..
ก้อนหินได้ยินได้ฟังก็เพียงแค่รับฟัง ดั่งเพื่อนใจปลอบประโลม..
...................





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html
เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น 

เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง
มัน คลุ้ม คลั่ง ฝัง รอย สวาท ใจ
มันซุก มันไซร้ มันซบทรวงทราย
แทรก ซึมไม่มีวันวาย
มันเคลิ้ม มันคลุก มันเคล้า มิคลาย
รสทรายรื่นรมย์
เสียง กระ ซิบ แผ่ว
ฟัง หวาน แว่ว พริ้ว ตามเกลียวคลื่น มา
เรารัก กันหนา มาหา มาชม
คลื่น คอยติดตามเกลียวลม
มาร้อย รอยรัก มาทัก คลื่นชม
ภิรมย์เพียงฝั่ง
ฟัง ซิคลื่น มันละ เมอ
ฝาก สวาท เหมือน เธอ ละเมอเพ้อให้ ฟัง
เห็น ใจฝั่งบ้างหรือ ยัง
ฝั่ง รัก จี รัง เหมือนคลื่น ยืนใจ
เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง
กระ ซิบ สั่ง ฝัง รักตลอด ไป
มันซุบ มันซิบ กันชื่นใจ มันซบ มันหนุน จนอุ่นไอ
กระซิก กระซี้ กันเรื่อยไป
จะรัก กันไว้ ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล
เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล... 
 
  



V263209.jpg				
16 มีนาคม 2550 17:33 น.

หลงทาง..!

พุด


ดั่งนกไพรหลงทางอ้างว้างสิ้นหวัง
เซซังซมซานผ่านพายุกล้า
เลือดใจไหลรินอ่อนล้า
ค้นหารังรักได้พักพิง

ขอพักรักษาชีวีชั่วคืน
หลับสักตื่นซอนซบซุกนิ่ง
ทิ้งร่างไร้กายบาดเจ็บกับโลกจริง
ลืมทุกข์สรรพสิ่งปรารถนายิ่งเพียงอุ่นไอ

ฝนกระหน่ำภายนอกม่านหมอกสลัว
เหน็บหนาวกลัวพายุร้ายหวั่นไหว
มากพรานจ้องปองหมายประหัตประหารใจ
นางนกไพรสิ้นแรงฝันสวรรค์ลา..

ปรารถนาแค่คืนค่ำไฟรักอุ่น
มือละมุนลูบไล้ลืมเหว่ว้า
คลายเหน็บหนาวร้าวระกำเรื่องผ่านมา
แล้วจักลา...
พร้อมเผชิญโลก..แม้นโศกรอ..มากโศกรอ.!!!

..............................


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด