13 กันยายน 2546 00:01 น.

Love Is Blue!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6993

ม่านฝนหล่นบ่าพร่าม่านฝัน
เบื่อผูกพันเบื่อฝันค้างแรมร้างไหว
เบื่อฝันพลัดหล่นหายสายธารใจ..
เบื่อเงาใจในโลกฝันมันไม่จริง...

อยู่ลำพังกับดายเดียวกับเปลี่ยวร้าง
ฝังฝากร่างกับธรรมชาติเงียบงามนิ่ง
ไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นโลกเสแสร้งลืมทุกสิ่ง
อยากหยุดนิ่งวิ่งหนีห่างนิยามเมือง..

เบื่อหน้ากากกระชากใจไม่รัดร้อย
เบื่อคนร้อยคนพันมากมายเรื่อง
เบื่อความฝันอันวกวนแสนเปล่าเปลือง..
เบื่อสังคมเมืองเรื่องมากลากตามไป..

ขออยู่เดียวเปลี่ยวเหงาในโลกร้าง
แม้นอ้างว้างไร้แสงสีก็ทนไหว
ไม่รุงรังหวังวาดสิ่งใดใด
มีเพลงไพรมีเพลงฝันมอบวันดี

ฟังเสียงฝนเสียงนกไพรเสียงใบไม้
ฟังซัดส่ายเสียงสายลมห่มใจนี้
ฟังเพลงหวานผ่านม่านหมอกธรรมชาติดี
ทุกสิ่งที่ไม่แปลกปลอมย้อมสีใจ


มองม่านฝนผ่านม่านใจในวันนี้
ใจดวงดีก็แสนเงียบเฉียบเย็นใส
น้ำตาฝนหล่นลาฟ้าผลาญพร่าใจ
สอนดวงใจให้ลึกล้ำอย่าซ้ำรอย..

ขออยู่กับฟ้างามยามใจเหงา
ไร้เงาใครไม่อยากฝันฉันยอมถอย
ขอซุกร่างกลางเรือนจำปีที่รัดร้อย
ร่างฝากรอยใจฝากร้าวก็เศร้าดี ก็ซึ้งดี!







http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6993
  Love Is Blue   
Ai Martino : : Key G  
Blue blue
my world is blue
Blue is my world
Now Im without you
Grey grey
my life is grey
Cold is my heart
since you went away
Red red my eyes are red
Crying for you
alone in my bed
Green green
my jealous heart
I doubted you
and now were apart
When we met
How the bright
sun shone
Then love died
Now the rainbow is gone
Black black
the nights Ive known
Longing for you
so lost and alone
Gone gone
the love we knew
Blue is my world
now Im without you
When we met
How the bright
sun shone
Then love died
Now the rainbow is gone
Black black
the nights Ive known
Longing for you
so lost and alone
Blue blue
My world ia blue
Blue is my world
now Im withoutyou... 

				
12 กันยายน 2546 21:57 น.

บัวกลางบึง!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=219....เดื่อนต่ำดาวตก
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=197...จูบมัดจำ


ในม่านฝนในม่านฝันคืนค่ำนี้..
แย้มยิ้มกับไพลสิคนดี ..ทุกดวงใจ
ไพล..จะพาคุณไปเยือน วิมานใยบัว วิมานฝัน
ยังสรวงสวรรค์บนดิน
เรือนริมบึง เรือนไทย เรือนใจ เรือนร่มรักแห่งเรา..

เรือนไทยหลายหลัง ที่ซ่อนตัวฝังแฝงในร่มแมกไม้ไทยนานาพันธุ์ 
ในดงดอกลำดวนหวานหอม 
ในดงดอกจิกหว่านพราวพริ้ง
ทิ้งชมพูพร่างสายกลางสายชล..สายธารให้หวานระริกระรื่นชื่นฉ่ำ
มีชานเรือนเชื่อมกัน ราวสายฝันมิพรากลา
ชานเรือนที่ร่มเย็นในเงาไม้ มีเถารสสุคนธ์กรีดกราย เลื้อยพันชูช่อ มีซุ้มกอลัดดาวัลย์
สายน้ำผึ้งฝัน  สอดประสานก้านเกี่ยวเกาะ กันไป
ให้ร่มเงาให้ดวงใจได้ไหวหวาน  งดงามแสนดี ตลอดปีตลอดไป..

ตรงหน้าเรือน..คือบึงบัวหลากสีหลากพันธุ์  
ค่อยค่อยคลี่กลีบ แย้มชูชันบานรอรับหวานหยาดจากสายวสันต์พรำพร่างกลางกลีบเกสร..งาม
ในเงาจันทร์ ในม่านเมฆฝน นั้น เห็นดอกฝน ลางเลือน
เหมือนดวงดอกฝัน ดวงดอกไม้ดอกนิดนิดดอกน้อยน้อย 
ค่อยค่อยกระจาย หายไปเป็นวงกว้างกลางบึงบัว
ดั่งดอกไม้สายวสันต์ ท่ามกลางเรือนฝันเรือนใจ..ในสายชล..

ให้ห้องหับทับเรือนไทย แสงตะเกียง ริบหรี่ วับแวม 
จุดวางไว้ ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง แบบโบราณ ที่มีบานกระจกโค้งมน
เป็นรูปไข่ และมีกระจกสี มีหูช้าง ด้านข้างไว้เป็นที่ปิดเปิดที่เก็บเครื่องหอมร่ำ
ที่หูจับลิ้นชักทุกอัน เรียกเม็ดมะยมทำเลียนของจริงด้วยกระเบื้อง..

ใกล้กันมีโถลายคราม บรรจุด้วยดอกไม้ไทยแสนหอมงาม 
เล็บมือนางสามสีสลับสวยสดชื่น..ข้างข้างมีพานทองเหลืองใส่
การะเวก มะลิลา มะลิซ้อน อ้อนตามด้วยดวงดอกลั่นทมนวลเศร้า..ระทม.

บนเตียงนอนโบราณที่มีเครื่องนอนหมอนมุ้งสีขาว 
มีม่านลายลูกไม้รายรอยที่ถูกจีบจับไว้ด้วยโบว์ผ้าไหม
รับร่างงาม ที่พาดตัวยาว นอนสยายผม ราวสายไหมแผ่กระจาย
ใบหน้านวลผ่องผุดดุจงาช้างเนียนละออ ล้อแสงตะเกียง ที่ทอทอดจับ
โลมไล้ร่าง ให้เสี้ยวหน้ายิ่งงามละมุนละม่อม..ราวนางในฝัน..

เธอใส่ชุดนอนผ้าลินินสีขาวลายลูกไม้ ยาวกรอมเท้า..
และใกล้หมอนปัก..ลายเถาวัลย์พันช่อดอกดวง
มีดอกพุดซ้อน.ซ่อนหวานแซมใบเขียว วางไว้สามสี่ดอก
ร่างงาม พลิกตัว เอื้อมคว้าหนึ่งในดอกนั้น มาทัดหู เคลียแก้ม แซมผม
และอีกดอก อีกคว้า เธอนำมาดอมดมพรมจูบด้วยรัก 
ในงามพิสุทธิ์ผุดผ่อง ซาบซึ้งเศร้าหวานเร้าใจ ..

เธอหลับตา พริ้มฝัน กับเสียงฝนพรำพรมนอกชายคา นอกหน้าต่างเรือน
ที่เปิดรอทิ้งไว้ให้หยาดละอองฝนพรายพร่าง
มาตกต้องกลางร่างกลางดวงใจให้ไหวงามตามฝันตามฝน..

กลิ่นการะเวก ใกล้กอซุ้มลัดดาวัลย์
กับกลิ่นดอกโมกพราวพร่างใกล้ชายคาเรือน
หอมกระจาย อวลมากับสายลมยามค่ำ
มาทายทักพะเน้าพะนอพ้อพลอดใจ

ไหนจะกอราตรีที่กำลังบานเต็มช่อดอก
เกสรบัวก็พลอดพรายกลิ่นแย้ม..มาแตะแต้มดวงใจ
ต่างพยายามคลอเคล้า ให้เจ้าของหวานหอมหลอมละลาย..

เธอควานคว้ากระดาษ มารจนาบทกวีบทนี้ถึงเขาคนดีผู้เป็นที่รัก!


ดอกปีบหวานบานเศร้าร้าวรานรัก
ดงดอกรักขึ้นเป็นกอรอรู้เห็น
ดอกลำดวนหวนหาทุกเช้าเย็น
ดอกราตรีไม่เว้น..บานรอท่า.ทุกราตรี
ดอกพุดซ้อนซ่อนใจใครกันหนอ
ดอกเข็มกอแทงใจใครหน่ายหนี
ดอกบานเช้าเย้าย้ำรอคนดี
ดอกมะลิที่บ้านนี้ลอยรอเธอ
ดอกจำปีกี่ปีแล้วลาเลือนลับ
ดอกเทียนนับเป็นร้อยห้อยพ้อเพ้อ
ดอกพุทธชาดสวาทหวังยังละเมอ
ดอกรอเก้อบานวันนี้ที่รอรอ..  



และ
ณ...เรือนไทยท่ามกลางแสงตะเกียงฝันอันริบหรี่ รุบหรู่ 
กับเสียงดนตรีธรรมชาติจากสายฝน
กับเสียงจิ้งหรีดเรไร ระงมขับกล่อมประสาน
นานนานจะได้ยินเสียงนกไพร ดุเหว่าหวานดังแว่วกังวานมาแต่ไกล
เธอเปิดเพลง ไทยลูกทุ่ง ราวจะฝากไปให้ทุ่งสะเทือนตาม
ราวกับจะฝากความคิดถึงแสนงาม ข้ามไพรพฤกษ์พนา พาโบกบินไปปลอบประโลมใจ
คนในดวงใจ ในยามนี้ ที่เธอนอนดายเดียวเฝ้าฝันเฝ้าหลงรอ 
ขอเพียงให้เขาคืนกลับมา..หลอมละลายใจร่าง มีห่างหาย ให้ดาวพรายบนฟ้าอิจฉา
ให้บัวกลางบึงเหว่ว้า หลงเฝ้ารอหมู่ผึ้งภมรมาเชยชมคลึงเคล้าเกสรตาม..



เขียนบทนี้ วันที่พายุพัดแรง
ราวแกล้งให้ใจพุดพัดชาไหวตาม
กับแสงเทียนหวามไหว กับฉากในฝันที่มีจริงในวิมานดินพุดพัดชา
ทำให้อยากรจนา งานงามเงียบหวังเฉียบฉ่ำพรำรินลงตรงกลางใจทุกดวง
ยามดึกดื่น ที่ดาวลาดวง..เดือนลาลับ..มิคืนกลับมา..
และพุดพัดชา
อยากให้มาร่วมฝันร่วมพันผูกกับฉากเหว่ว้า  
มาฝากรัก ฝากใจ  ที่เราถูกโชคชะตานำมาให้มาพบมารักกัน
นะทุกดวงใจไฟฝันในฝัน  
ณ.ที่แห่งนี้  ร่มเรือนไทย เรือนใจ เรือนขวัญ 
วิมานสวรรค์สรวงของเราในโลกฝันอันแสนงาม
ด้วยพลังแห่งใจละมุนละไม ..ไปด้วยกัน ด้วยใจต่อใจ

และด้วยพุดพัดชาเบื่อโลกแสงสี เบื่อโลกวัตถุมากมี
และทุกคราที่ดวงตาดวงใจสัมผัสสายวสันต์ ลีลาวสันต์
พลันจะก่อเกิดงามพร่างกลางใจ ที่อยากรจนามากำนัล
ให้ทุกท่านทุกดวงใจนั้น ได้หลับฝันดี
และยินดีมอบบทนางเอกให้นะนาทีนี้นะคะ
ยกเว้นมวลหมู่ภมร ที่อยากร่อนภิรมย์ชมบัวคลึงเคล้าเกสรบัว
บัวกลางบึง ที่ทายท้า รอท่าผู้กล้า สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย 
ที่มิใช่แค่หมายลอยคอรอคอย
จนบัวน้อยเหี่ยวแห้งคาบึง..นะคะคนดี..
พิสูจน์ซี หากอยากได้บัวทองผ่องพิสุทธิ์นะเรือนไทยนี้ที่มากมีมากมาย
ด้วยใช้ใจดวงดี ดวงงาม ตามแลกแบบ
ใจดวลใจ .ใจเดิมพันใจ.ดีไหมคะ!ดวงใจ
				
12 กันยายน 2546 11:42 น.

ลาไพร!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=197..จูบมัดจำ


ยามอุษา ฟ้ากระจ่าง ทั่วนภางค์รำไรรำไร
ไพล..คว้าจักรยานคู่ใจ คู่ชีพ คู่ขา ปั่นออกไป
ตามถนนสายโศกสายฝัน..
สายดอกไม้ริมทุ่งยังแสนงาม

ทั้งๆที่ใจแสนกลัว สุนัขมากมี
ที่เป็นสมาชิกพรรคข้างถนน
ที่คงจะอยู่คนละพรรคกับไพล 
ถึงได้จ้องที่จะรุมเห่าเขย่าขวัญ
คอยอยากจะขย้ำหม่ำน่องน้องน่องทองน่องนักกีฬาขาแข็งแรงคู่นี้ เสียจริงจริง..

เอาไงเอากันนะ เพราะว่าในตัวมียาป้องกันพิษสุนัขบ้ามากมี
ที่ฉีดมาหลายทีแล้ว 
และครั้งล่า....คุณหมอบอกไว้ว่ายังป้องกันได้ไปอีกห้าปีค่ะ...ห้าปี..
แล้วดวงชีวีจะยังหวั่นอะไรเล่า อ้าวปั่นไปเลยไป..

อากาศยามเช้าแสนสดชื่น ลมระรื่นระริน

คิดถึงใครบางคน 
ที่อาจหลงกลิ่นน้ำเมาน้ำละมุด จนบางที่อาจจะต้องหยุดงาน
(เอ๊ะ ใครกันละหนอละนี่หรือว่าผีขี้เมา ที่เราเฝ้าคิดห่วงใย)..

กลุ่มเมฆลอยเกลื่อนฟ้า 
รอเวลาพระอาทิตย์แหวกม่านชักรถ 
ปรากฏกายออกมาเยือนโลกหล้าอีกคราครั้ง 
ให้ทุกดวงใจได้ตามตะวันพบทิวาวันแสนดีที่แสนงาม..

ไพล..สูดลมหอมหวานในยามเช้าแสนสดชื่นช้าช้า 
ผ่อนฝีเท้าลง!

ถนนสายโศกสายฝันยังว่างวาย 
ต้นไม้ตายซากยืนต้นแผ่กิ่งก้านงามประหลาด 
ยังกับเส้นสายปะการังสีดำ 
งามล้ำในรู้สึกลึกเศร้าจนต้องหยุดเฝ้าเหลียวมอง..

ดงดอกหญ้าและรวงเรียวข้าวในท้องนา 
ที่ยังเหลืออยู่ริมกรุงริมทุ่งริมถนน
ยังคงสะบัดพลิ้วปลิวไสว 
รอรับแสงอาทิตย์ดั่งทองทา 
มาโลมไล้ละมุนล้อรวงเรียว
พรายพร่าง อย่างอ่อนหวานอ่อนโยน

กลุ่มผีเสื้อ แมลงปอ บินว่อนร่อนชมดวงดอกไม้

สองฟากฝั่งบ้านชาวสวนชาวทุ่ง
ที่ยังตั้งหลักไม่ทันยังคิดว่าหลับฝันไป 
ที่อยู่ดีไม่ว่าดีมีถนนสายยักษ์ตัดตรงมา
และให้นอนสะดุ้งทุกทิวาราตรีว่า ไม่รู้วันใด 
จะพารถคันใหญ่มาถล่มทับ..ให้ยับย่อยจิตวิญญาณ..แบบมิฟื้นคืนกลับ..


นานนับเท่าไรที่สองลำคลอง ลำประโดง 
ยังหลงเหลือความงามชนบทดิบเดิมติดดิน
ให้ไพล ถวิล ชมเพลิน เฝ้าดูทุกวี่วัน
ทั้งยามค่ำ และงามอรุณรุ่งอย่างเช้านี้..



ไพล..หลงรักกระท่อมทับ..หลังหนึ่งของสองตายายคู่ยาก
ที่มีถนนทางเข้าคือรอยย่ำแยกของดงหญ้าคา..พอให้รู้ว่านี่คือทางออก
สู่ท้องถนนใหญ่ 

ที่..ปลูกไว้พักใจกายยามเสร็จงานนา ยามเหนื่อยล้า
มาสูบมวนยาตราใบตองนอนทอดถอนใจ..
ดูฟ้าไกลอย่างเงียบงาม
ให้ลมโชยชายทุ่งพัดกลิ่นจรุงใจ
ของหอมกลิ่นดินกลิ่นแมกไม้ใบหญ้า
มาทำให้งีบหลับฝันไป..

นาทีนี้..วันนี้ไพลไม่รู้ว่าแกอาจจะดีใจหรือเสียใจ
หรือไพลกันแน่ละหนอ...
ที่ใจหายคล้ายกำลังสูญเสียเพื่อนไพรในป่ากรง


ไพล..เลาะเลียบไปนั่งริมทุ่ง 
ลืมความวายวุ่นวางเหว่ว้าห่างๆ..ใจ

ในคลองตา คลองใจ 
ให้สัมผัสใสงามของธรรมชาติที่ใกล้จะถึงกาลพรากจาก

ไพลได้แต่วาดใจหวังส่งพลังใจไปกระซิบร่ำลา ....
ดงดอกหญ้า 
ดวงดอกไม้ริมกระท่อมทับ
ดวงดอกไม้พื้นพื้นบ้าน 
ที่ถูกหว่านหวานสะพรั่งรายรอบ
มีดงดอกบานชื่น หลากสี มีดาวเรือง ดาวโรย

มีบานไม่รู้โรย ม่วงพราว ขาวนวล อมชมพู
มีพืชผักมากมาย ข่าตะไคร้ มะกรูด เป็นกอ 
และนั่นผักบุ้งงามละออแตกยอดทอดเลื้อยในท้องร่อง
ดงกระถินคลอรั้วสานไม้ไผ่ เขียวขนัด
มีตำลึงเลื้อยพันระเกะระกะก้านตาม
มีมะลอกอห้อยพวงหวานปลายเรียวก้นอมส้มอมชมพู
มีมะเขือพวง มีแตงร้าน 
มีบวบห้อยลูกยานเกือบถึงดิน
และมีทุกสิ่งที่เป็นวิถีชาวบ้าน 
ที่พึ่งพาพึ่งพิงฝากท้องให้อิ่มให้เอมใจ..

เป็นเสน่ห์งามง่าย 
ที่ไพลไขว่คว้า 
และได้พาดวงใจยามอ่อนล้ามาพักตาพักจิตวิญญาณ
ที่ไพลหลงตามหาตามติดในเมืองลวงนี้..จนพบเจอ

และ..
ไพล..จำได้ว่าเคยคุยให้ไอเดียตายาย 
ผู้อาจจะคิดตรงข้ามกันกับไพล
ให้ถนอมธรรมชาติแห่งผืนดินชุ่มฉ่ำใจนี้เอาไว้ให้ตราบนานแสนนาน

อย่าเอาอย่าง 
คนเกาะชาวสวนมะพร้าวบ้านไพรที่ขยันขายที่มาขี่เก๋งแข่งกัน
เป็นทิวแถว ให้หัวใจคลุมด้วยเหล็กกระด้างแข่งกัน

ที่เจ้าของบริษัทนั้น 
รู้จักจิตวิทยามนุษย์มากมีที่ทะยานอยาก
ไม่รู้จบรู้สิ้นถวิลหามาประดับร่างประดับบารมี..
ที่มากมีเกินความจำเป็นใช้สอย

จึงตั้งหน้าตั้งตาผลิตกันมาเสนอสนอง..กิเลสนี้
ที่ทำให้โลกได้หมุนไป..ในทางวัตถุล้นเมือง
ไม่ประเทืองใจ
ที่ต้องทนทุกข์ทำงานเหนื่อยยากตรากตรำ
หาเงินมาผ่อนจนแทบบ้าคราถูกตามทวงเงินงวดค่ารถ
ราวนั่งอยู่ในนรกแม้นเบาะรถจะแสนนิ่ม..

และไม่เหลือเนื้อใจให้ไหวหวามให้ไหวทัน 
หรือบางทีก็เกินการณ์เกินแก้ 
พ่ายแพ้ใจจนเครียดเส้นโลหิตแตกในสมอง 
ตรองไม่ทันตามกระแสโลก..
......


ไพล..
จึงเสียดายบ้านไร่ชายทุ่ง 
กรุ่นกลิ่นหอมลอมฟางเรียวข้าวในนา
และดงดอกหญ้าไหวเอน..
ที่ใกล้จะไร้ร้าง 
มีหมู่บ้านจักสรรขึ้นมาแทนที่ราวดงดอกเห็ด..เป็นป่าปูน..

ถนนสายใหญ่ยักษ์ สายคอนกรีต 
ที่กำลังกรีดดวงใจไพลทิ่มแทงใจไพลให้ย่อยยับดับฝันตาม
และให้เนื้อใจนิ่มนิ่มนวลนวลของชาวนา แหว่งวิ่น
กระจัดกระจายพรายพลัดไปกับลมอารยะ..ที่บ่าโหมกระพือ..


ไพล..ขอหยุดเล่าแค่นี้นะคะ 
เพราะว่ายาวย้ายยานแถมมิหวาน..มีแต่รานร้าวเสียอีกค่ะ

เอาแค่ว่า..เช้านี้ไพลคนดี 
แค่มาบอกว่ายังได้มาพบเช้างาม
อรุณรุ่งเรื่อรางสีหวานปานรุ้งเรียวในซอกเสี้ยวดวงใจ..นะคนดี

แม้นมิใช่ในไพรพฤกษ์ที่ไพลฝัน .
.เฝ้ามองผืนพสุธาภาวนาให้ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง
เพื่อพบฝันวันดี.. 

ที่สุด..ก็สุดแต่ดวงตานี้...ดวงใจนั้น ของผู้ใด 
จะ..ไขว่คว้าฝัน มาเพลินตา เพลินใจ..มาประดับดวงใจ..
ตัวใครตัวคุณก็แล้วกันนะ..นะคะ



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=197
 จูบมัดจำ   
ทูล ทองใจ : : Key F  
ต่าง วิงวอน อ้อนรัก พรอดพร่ำ
รัก แสน หวานฉ่ำ พี่จูบมัดจำ ตลอดทั้งคืน
กอดนวลไว้ แนบกายฝังใจระรื่น
ไออกอุ่นหนุนรักชื่น 
พี่กอดขวัญยืน มิจางห่างน้อง
จะ มีใครที่ไหนกันเล่า สวยงามเกินเจ้า
พี่เฝ้าเล้าโลม โฉมนิ่มเนื้อทอง
สุดจะสรรค์ เนินถันเจ้างามขาวผ่อง
ดังหนึ่งพิมพ์ ยามยิ้มมอง
สวาทรักปอง น้องนางนั่งชม
จวนแจ้ง แล้ว หนา เดือนตกจะลับตา
นกกาต่างกู่ หาคู่ภิรมย์ 
นกกู่ พี่กอดเจ้าไว้มิให้ระทม
สองเราต่างเฝ้าเชยชม 
จนสิ้นแสงโดมแห่งจันทร์
พี่ ต้องลาก่อนฟ้าสว่าง น้องนวลแนบนาง
เฝ้าจูบสองปราง เพื่อฝากสัมพันธ์
แต่คืนนี้ พี่ไปอย่าได้ไหวหวั่น
คืนใหม่เราค่อยพบกัน
เพื่อสร้างวิมานฉิมพลีที่คอย... 

				
11 กันยายน 2546 22:52 น.

ลับหล้า!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=152


ในจักรวาลอันเต็มไปด้วยหมู่ดาว พราวพร่าง
นับร้อยนับพัน นับล้านดวงนี้
มีโลกเราเป็นหนึ่งในนั้น..โลกที่ค่อยเยือกเย็นลงอย่างช้าช้า..

ในความมีด... มีดวงจันทร์ส่องสว่างกระจ่างฟ้า
มีเดือนดาราระยิบพริบพราวพร่างงามยามราตรี
มีแสงอาทิตย์ ฉาดฉายแสงแรงกล้า
เพื่อปลุกนิทราของสรรพสิ่งบนผืนพิภพ
มีต้นไม้สีเขียวเติบใหญ่ในไพรพฤกษ์
มีดอกไม้แย้มบาน ท้าสายลมพลิ้วพัดสัมผัสหวานละมุน
มีผลไม้ ให้มวลมนุษย์ ได้ยังชีพ 
มีผีเสื้อ มีแมลงแสนสวยนานา
มีขุนเขาเสียดฟ้า ท้าสายหมอกเย็น
มีธารน้ำตก ใสไหลเย็นฉ่ำ อวดริ้วละอองฟองฝอย
มีมหาสมุทร ทะเล เกาะแก่ง ฝูงปลา 
และมวลสัตว์น้ำที่แหวกว่ายใต้โลกสีคราม
น่าติดตามลงไปสัมผัส

และแสนโชคดีนัก ที่ฉันได้เกิดมากลางเกาะที่งามราวไข่มุก
ของอ่าวไทย ที่ไกลจากแสงสี
เป็นความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์บันดาลของโชคชะตาฟ้าดิน
ที่มอบให้กับผู้หญิงช่างฝันอย่างฉันที่แสนภูมิใจแสนดีใจ..

และขอกราบกรานพระพรหมที่ท่านเมตตาให้ลูกมิรู้สิ้น 
ได้พบกับสิ่งที่งามติดดินถวิลไพร ได้เรียนรู้โลก
จากใจที่สวยใสตั้งแต่วัยเยาว์ที่เกิดมา  กับธรรมชาติตรงหน้า
ที่กับทุกสรรพสิ่งที่ดำรงสวยซื่อตรง 
จงรักให้พักใจมานานเนา..ให้หลับฝันดี

ฉันคิดถึงทุกเม็ดทรายที่เคยย่างเหยียบ 
ที่สุกปลั่งราวทองคำทาบทา ยามอาทิตย์ใกล้ลาลับฟ้า 
ในยามแสงสนธยา ตกต้องมลังเมลือง
ไปทั่วทั้งผืนน้ำและหาดทรายขาวนวลยาวเหยียด...

ฉันถูกตรึงด้วยมนตรา ของงามง่ายไร้มายา
งามแบบตรงไปตรงมา ราวสาวบ้านไร่ 
สาวชาวเกาะที่ถูกเพาะบ่มห่มร่ำเนื้อใจด้วยวิถี
ดิบเดิมของความพอเพียง ที่บางทีมิเพียงพอ
ด้วยยากไร้ ให้เราได้หล่อหลอมซึมซับและรับรู้ในลำบากทุกข์ทน 

ที่เกิดมากับคำว่าความจน คนจนจนในชนบท 
ที่ทำให้หัวใจเรางามงดแข็งแกร่ง
มีเรี่ยวแรงที่จะฝ่าฟันที่จะขยันและต่อสู้..
เพื่อแค่ดำรงอยู่รอดไปวันวัน..
เป็นชีวิตแห่งความหลัง 
ที่หันกลับไปมองคราใด ดวงใจอ่อนละมุนดวงนี้ก็อ่อนยวบ
ด้วยสำนึกลึกล้ำ กตัญญูรู้คุณ รู้ค่า 
ของคำว่า ยาก คำว่าจน..คำว่าอดทน และคำว่าไม่ลืมตัว

นะวันนี้..ดวงใจดวงนี้
อยู่เพียงทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ รอคืนหลังไปสู่ฝั่งฝัน
ฝังใจ..ฝังร่าง..ฝังจิตวิญญาณไว้ใต้งามลั่นทมดอกพราว
ที่ราวปลูกไว้รอรับ..รับรู้.. 

และก่อนตะวันในดวงใจจะลาลับหล้า 
ละครชีวิตจะปิดฉากลาลง..เป็นนิรันดร์
นักฝัน คนนี้ อยากยึดเวที ร่ายมนตรา 
สะกดหัวใจท่านผู้ชมนะเรือนไทยนี้ให้
เลิกเหว่ว้า และอย่าอ้างว้าง
ไปกับบทบาทเศร้าเหงาดายเดียวเลยนะ..

เมื่อวันม่านอำลาชีวิตคลี่ปิดลง
เพราะเธอออกจะมีความสุขในเศษเสี้ยวใจ
ในเรียวงามแห่งความทรงจำที่หวานหอมนะที่แห่งนี้..
ที่มากมีหลายบทตอน และยังนำมาสอนใจ
อย่าให้เดินตามไป
ในเส้นทางสายโศก..สายฝันที่ร้างไร้..สิ้นไร้ใครเคียงข้าง..

และ..อย่าร้องไห้เพื่อฉันนะคนดี 
เก็บน้ำตาเธอนี้ไว้ให้หลั่งรินรดหยดต่อผืนดินเกิดของฉัน
เพื่ออธิษฐาน....
ต่อสายไยฝัน
สายใจรักผูกพัน
ให้เราได้พานพบกันอีก
หากเธอรักฉันอย่างหนักแน่นมั่นคงใจ.ไปนิรันดร์...



พุดพัดชาเขียนยามเหว่ว้าและคิดถึงบ้าน
กับความไม่ประมาทกับการพรากจาก
ในทุกโมงยามแห่งดวงชีวีนี้
ที่เตรียมพร้อมรับ..



ตะวันตกดิน
เฝ้าถวิลมิสิ้นอาลัย
ครวญหาเหว่ว้าดวงใจ 
ไม่มีใครคู่เคียง
ฉันกลัวความเหงามันโหดร้ายขื่นขม
ยามค่ำคืนระทม หักอารมณ์เหลือข่มใจ
ตะวันตกดิน...
.......
				
11 กันยายน 2546 14:56 น.

ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=452
(ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง)ไพเราะมากอยากให้เปิดคลอนะคะดวงใจ!


แม้นไม่มีปีกโผบินได้เหมือนนก
ฝันในอกยกปีกใจไปตามฝัน
หลับตาเจ้าใจคลึงเคล้าโลกเงียบงัน
ปล่อยวิญญาณฝันเสรีไม่มีแดน..

บินไปไกลเท่าที่ใจอยากไปถึง
อยากไปซึ้งซุกซบใครในอ้อมแขน
อยากรักใครกอดใครให้แนบแน่น
หลับตาแทนท่องดวงใจไปได้เลย!..

ขอเพียงฝันนั่งดูฝนในไพรพฤกษ์
พอยามดึกดูดาวพรายสายหมอกเหมย
ฟังเพลงไพรกล่อมพนาวาดภิเปรย
ดนตรีเอ๋ยดนตรีไพรในใจเรา..

สรรพเสียงเพียงธรรมชาติวาดเวิ้งฝัน
เอนอิงกันนับดาวไร้เศร้าเหงา
สบตากันหวานฉ่ำล้ำลึกเรามีเรา
ให้เงียบเงาสะท้อนหวานผ่านดวงใจ..

ในงามเงียบคือดิ่งด่ำงามล้ำลึก
เป็นรู้สึกซ่านซึ้งถึงไหนไหน
แค่กุมมือกันและกันใจแลกใจ
สุขเพียงไหนฝันเพียงนั้น..ฉันรักเธอ!


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=452
  ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง   
เกศินี วงศ์ภักดี : : Key G  
เพลงฟ้าต่ำแผ่นดินสูง

ต่ำคือแดนเขตแผ่นดิน
เขตเมฆินทร์เขตแดนฟ้า
สูงส่งเหลือคณาพาให้คะนึง
แดนดินแดนฟ้าตราไว้ประหนึ่ง
แยกส่วนที่พึงตรึงรั้วกั้นฟ้าแบ่งดิน
แต่ดวงใจคน ดิ้นรนไม่รู้แดนถิ่น
ไม่อาจแบ่งฟ้าดิน มันโผผินบินผ่านหาญกล้า
เรื่องดวงใจไม่มีแดน
เขตเมืองแมนจะไปหา หัวใจมันกล้า
แดนฟ้าต่ำดินสูงได้ไม่นึกกลัว

แต่ดวงใจคน ดิ้นรนไม่รู้แดนถิ่น
ไม่อาจแบ่งฟ้าดิน มันโผผินบินผ่านหาญกล้า
เรื่องดวงใจไม่มีแดน
เขตเมืองแมนจะไปหา หัวใจมันกล้า
แดนฟ้าต่ำดินสูงได้ไม่นึกกลัว... 

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด