19 กรกฎาคม 2552 21:41 น.

ลีลาวดีผลิบาน...ให้รานเศร้าในรอยใจ...!

พุด

Pic+005.jpgpagePlumeria.jpgpink_plumeria.jpg
วันที่ฟ้าไร้เมฆฝน
ขับรถดั้นด้นสู่เส้นทางรกเรื้อ
เรือกสวนไร่นา
ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองกรุงสักเท่าไร
เห็น....
บัวบึงผลิดอกบานหวานแย้มตระการ
ให้ภู่ผึ้งภุมรินทร์
ชิดเชยชมคลึงเคล้าเคลียเกสรสราญ

นาข้าวไล่โทนสี
มีทั้งที่กำลังเขียวไพลเขียวขจี
บ้างก็ที่กำลังสุกปลั่งระย้าระยับ
สะท้อนวะวาววับ
รับ..
สายแสงแดดสีทองยามสุริยาฟ้าโพล้เพล้
โอละเห่ละช้ากับฟ้าแสนงาม
แล้ว...
นั่นดงตาลหวานว้าเหว่
เคียงข้างนาข้าวราวคู่ขวัญคู่ใจก็มิปาน


ในรอนแสงตะวันลา
เห็นวิถีไทวิถีทุ่งยังรุ่งงาม
ท่ามแสงอุษาวันอันแสนเงียบงัน
ได้อารมณ์อันดื่มด่ำล้ำลึก
รู้สึก..
แสนซาบซึ้งกับรอยไถ
มาตรแม้นแปรไปมิหวนคืน

ไร้คนกับควาย
ไร้นากับเกวียน
ไร้เคียวเกี่ยวเก็บ
จนเหน็บหนาวยามนึก
แต่กระนั้น...
ก็ยังพาให้กมลดวงดินดวงเดิม
ย้อนรำลึกคิดคืนหลังกลับไป
ใน..
สมัยสุโขทัย
แล..
กรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี

ยามที่..
สายใจเจ้าพระยายังงามใสไหล
ระรินระรินล่องให้ว่องว่ายราวขวัญเรียม

แผ่นดินแม่มาตุภูมิ
อันกว้างไกลไพศาลแสนอุดม
ดั่งคำที่ว่า..
ในน้ำมีปลาในนายังมีข้าวกล้าให้แลละลิบ
ประดุจพืชพันธุ์ทิพย์ฟ้าประทาน
หว่านหวัง..
ให้ลูกหลานไทยยังได้มีกินอิ่มท้อง...
มิพักต้องพึ่งวัวควายเหล็กที่ต้องจ่ายเจ็บ
ด้วยค่าน้ำมันราคาแพง..แสน..

วิถีไทที่เช้าขึ้นมา...
สาวนาใส่งอบบังหน้านวลลงนาลงสวน
เพื่อทำกินมิสิ้นแรงเพียร
รู้อยู่อย่างสมถะพอเพียง
และมีเพียงความงามสงบในวิถีไพร
ดำรงตนอยุ่ในการรู้พึ่งพาพึ่งพิง
โอบเอื้อเมตตากรุณากันฉันท์พี่น้อง

ชีวิตที่แสนสุขไกลจากโลกแสงสี
มีเพียงดนตรีธรรมชาติ
ยามเข้าไต้เข้าไฟ
พร้อมหน้าแม่พ่อล้อมวงกินข้าว 
อาหารพื้นบ้านอันเป็นวงจรธรรมชาติ
แสนสะอาดปราศจากสารพิษ


แล้ว...ก่อนนอน
เล่านิทานหิ่งห้อยให้ลูกหลานฟัง  
ก่อนเอนหลังฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรกบเขียด
ขันก้องประลองเสียงราวเถียงกัน
แล้ว..
นิทราฝันไป..
ใต้พรายแสงดาวพราวเพ็ญดวง    
เพื่อ..
รอรุ่งวันอันแสนเป็นชีวีที่แสนเรียบง่าย
ได้ชิดใกล้ธรรมะ ธรรมชาติ
ด้วยดวงใจใสพิสุทธิ์สะอาด
อย่างหาใดเทียม

และ..
นั่นคือความรู้สึกในนาทีที่หัวใจได้สัมผัส
จนต้องติดปีกใจปีกฝันอันอิสรา
เพื่อย้อนเวลา....
คืนสู่อดีตอันซึ้งค่าในสายใจ
....................


จากนาข้าว...
ลึกเข้าไปคือ..*สวนลีลาวดี*
ฤาที่ชื่อว่าดวงดอกลั่นทม
ทีมีมากมายนับหลายพันต้น
ออกดอกดวงผลิพราว
หลากสีสัน
หลากเศร้า
อวลเคล้ามากับสายลม
ให้ดอมดมพรมจูบด้วยรัก
และ...
รู้สึกหลงรักอย่างยากจะถอนใจ
ในงามน่าหลงใหลแห่งมนตรามหาเสน่ห์
ในดวงดอกอันอ่อนหวานอ่อนโยน
พาให้..คิดถึง..
คราคราวที่ก้าวย่าง
ไปในพระบรมมหาราชวัง
และ...
หลังจากนั้นได้
แรงฝันบันดาลใจเพียรพลีรจนา
เรื่องราว
ชื่อว่า...
*ลีลาวดีมณีรุ้ง*
ที่..ใคร่..
ขอฝากไว้ให้จรุงในอ้อมใจ ทุกดวงใจ
ณ บัดนี้ อีกคราครั้ง
เพื่อพบพลังแห่งความรักชาติรักแผ่นดิน
มิรู้สิ้นตราบวันลา....!
................................

ลีลาวดีมณีรุ้ง!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song100.html
(แต่ปางก่อน)
......................

ตะวันแก้วดวงทุยติมณี
กำลังทอดวงเรี่ยต่ำระดับแมกไม้
เหนือ..
เจ้าพระยาและพระบรมมหาราชวัง
ในยามย่ำสนธยา...


ให้ทุกจิตใส..ใจดวงงาม
ตกอยู่ในภวังค์เศร้าแสนเศร้า..
สุขแสนสงบสุข

กลิ่นลั่นทมพร่างไสวรายเรียงริมทาง
ใกล้ทางศิลามณีทอด
สู่พิมานสถานสรวงพระบรมมหาราชวัง
ที่...
สึกกร่อนผ่านร้อนหนาวยาวนาน
มาหลายรัชสมัยยังดำรงรอรับ
ทุกร่างที่ย่างกรายมาเยือน..รอย
ราวกับ..กำลัง
จะคอยสอนสัจจะใจในทุกย่างก้าวไทย..ไท
แล..
ใจทุกดวง
ที่ยังรักยังหวงแหนในผืนแผ่นดิน.. 
ให้แสนถวิลเทวษ
แกมภาคภูมิปิติในทุกอดีตอันหอมงาม
ที่ล่วงลาเลยลับ...ยามอยากย้อนคืน


แผ่นศิลา..
ทุกๆก้อนกร่อน
บอกความหนักแน่นมั่นคงตรงมั่นมิหวั่นไหว
ต่อทุกรอยเท้าไทย
ให้..
หยัดยืนเต็มร่าง
อย่างสมค่าคน
บนแผ่นดินไทแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง
ณ..ที่แห่งนี้..ที่เราเรียกว่าไทยไท..


ที่มีอิสรา...ในทุกธุลีหล้า
และ
ฝากความงามล้ำค่าในยามเรืองรุ่ง
ในทุกรัชสมัยอันไสวไพจิตรพิลาสนิรมิต
ดั่งเมืองแก้วเมืองขวัญ
ราวสวรรค์ลอยมาเยือน
ด้วยความสงบสุขมาอย่างนานช้า...


สมกับคำเสียสละ
ที่บรรพบุรุษ
ได้หลั่งเลือดชะโลมหล้าทาพสุธาทอง
เพื่อปกบ้านป้องเมืองจากอริราชศัตรู
ไว้ให้ลูกหลานไทย
ที่
ยังมีเลือดเนื้อกตัญญุตาในหัวใจ
ได้จำจดความงดงามนาม
ความหาญกล้าที่แสนยิ่งใหญ่
ให้มีไทยไทมาถึงทุกวันนี้


ต้นลั่นทมสีชมพู ขาว เหลือง ....
สูงตระหง่านหวานปนโศก
ปลิดใบทิ้ง
เหลือเพียงลำต้นแกร่งพร้อมก้านกิ่ง
ที่ไสวพวงรวงร้อยพร้อยพราว
เต็มไปด้วยดวงดอกดอกละมุนเศร้าหอม
เหนือพะยอมใด...ในทรงจำ
อัน..
ย้ำความสะท้อน
ย้อนสะเทือนระทมได้ถมทับทวี...


ผู้หญิงร่างเสลาสล้างบอบบาง
ในชุดผ้าซิ่นไหมทองผ่องผุดพิสุทธิ์พราย
รัดร่างอันสล้างกลมกลึง
กับเสื้อแพรไหมเผยไหล่ล้ำ
ห่มสไบสีทองพันพรางทบ
จนดูแปลกตากว่าใครในละแวก


และ
แสนแผกพิศพิเศษพิสุทธิ์
ผุดพรายละออริมเรียวแก้มซูบซีดนั้น
คือ..
เธอคนงามทัดดวงดอกลั่นทม
สามสีสามดอกหยอกเย้าวงหน้าละมุนนวล
ให้ยิ่ง..
รานหวานโศก
ราวจะหยุดโลก
ให้หันมาสัมผัสวิโยคงามแสนงาม
ยามสัมผัสผ่านพบ..


เธอมุ่นทบเกลียวผมตลบสูง
เผยต้นคอระเหิดระหงชวนให้หลงใหล
และ..
ยามเธอค่อยๆเคลื่อนไหว
เยื้องย่างอย่างช้าช้า
ในสายแสงตะวันลาสีทอง..
ยิ่งชวน..
ให้ผ่องพิศสะดุดตาสะดุดใจ
ในเหว่ว้าเงียบงามนิ่งงันราวโลกฝัน
ในอดีตสมัยสี่แผ่นดินย้อนหวนคืนกลับมา


ให้เต็มตื้นในวิญญาญ์
เต็มนัยน์ตาท้น
แทบล้นละหลั่งหยาดน้ำตา
สำหรับผู้มีดวงตาที่สาม
ยาม
ได้แลพบร่างงาม
ในท่ามกลางสถานที่แห่งนี้
ที่คือ..
ความมลังเมลืองเรืองรุ่งเป็นอมตะ
ที่ตราไว้ในทุกดวงจิตถวิลรัก
ในเงื้อมงามเงาอดีตขวัญ
วันแห่งความตระการ
ปานประหนึ่งแดนทิพยสถานมณีรุ้ง

ดั่งนามงามแสนงาม..

*กรุงเทพมหานคร
อมรรัตนโกสินทร์มหินทรายุ- ธยา
มหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานี
บุรีรมย์อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน 
อมรพิมานอวตารสถิต 
สักกะทัตติยะวิษณุกรรม- ประสิทธิ์ *
.............................................


เธอ...คนดี..
พลีหยาดน้ำตา
รินหลั่งรดหยดบนพื้นพสุธา
ด้วย
ความสำนึกลึกล้น
ด้วยความปิติเกษมเศร้าแสนเศร้า
ที่ยากยิ่งอธิบายพรายเงาซึ้งตรึง
ในก้นบึ้งแห่งงามดวงใจใครเล่ารู้นี้


ณ..ยามนี้..ยามเย็นย่ำสนธยา
กับ..
ทิวากรรอนแสงราวร่ำลาฟ้าดิน
ให้ดวงหฤทัยถวิลล้ำลึก
รู้สึกถึงค่ากาลเวลา
และ
อดีตลาเลือนลอยลับ
ราวหวนกลับมา
ให้เธอทิ้งวิญญาณ์ดายเดียวรำลึก
ราวอยู่...
ผู้เดียวเปลี่ยวเปล่า
ในโลกเหงาแสนเหงาเงียบงามร้างไร้...ลำพัง...!


ในท่ามกลาง...
พลังแห่งหอมห้อม
ล้อมหัวใจเหว่ว้า..ในภวังค์ฝัน
ให้เธอ
ทอดตานิ่งงันใต้ลั่นทมอันสะพรั่งพราว.....

 
เสียงมโหรีแว่วหวาน
แกมเศร้าราวเสภาโศกวัน
วิปโยคที่เธอเคยมาณ.ที่นี่

วันที่...
*ตะวันในดวงใจไทยทั้งดวง*
ลาล่วงสู่แดนทิพย์สถิตนิรพาน
แดนว่างงามตราบชั่วนิจนิรันดร์

วันที่
*แม่ฟ้าหลวง*
แห่งปวงชนชาวไทยสวรรคาลัย
ไปสู่แดนแก้วแพร้วเพริศพรรณราย..
*แดนดินแห่งขวัญนิรันดร์รัก*
..............


และแสนแปลกดีที่
เธอ..คนดี..
ได้ยินบทเห่เรือราวหวานแว่วแผ่ว
ทรงพลังจากลำนำลำน้ำเจ้าพระยา
ราวครวญคร่ำ...
ผ่าน...
ฟากฟ้ากว้าง
มาเยือนเรือนทิพย์เรือนใจ
ให้ไหวครวญให้ยิ่งเหว่ว้าอ้างว้างว่างใจ..
ในวันนี้นาทีนั้น...
ราว
นิรันดร์โศกโลกหยุดหมุนไปตราบชั่วกาล...!


ให้..
หยาดน้ำตาเธอยิ่งพร่างริน..มิสิ้นสาย..!
สุดถวิลเทวษโสมนัสปิติ
อย่างยากที่จะรำพึงรำพัน..
พร้อมกันกับ
ดวงดอกลั่นทม..แสนหอมงาม...
พลัน
พลี...
ปลิดปลิว....ปลิดปลิว...... 
ลิ่วลอย....ค่อย..ค่อย...
ร่วง...รายพรายพรมห่มร่างรานหวานเศร้า..
ราวปลอบประโลม..
อย่างเงียบงามดายเดียว....ดายเดียว...!
...........................


บทชมเรือกระบวน

ลอยลำงามสง่าแม้น         มณีสวรรค์ 
หยาดโพยมเพียงหยัน     ยิ่งฟ้า 
เหมราชผาดผายผัน        โผนเผ่น นภาฤา 
พายพะแพรวพายถ้า       ถี่พร้อมผันผยอง


บทบุญกฐิน

ผดุงธรรมเผด็จทุกข์ทั้ง     แผ่นผไท 
บังบาปเบิกบุญใบ             บ่มสร้าง 
หกรอบนักษัตรสมัย          โสมนัส 
เชิญเทพชุมชเยศอ้าง        อรรถพร้องพรถวาย
..........

บทชมเมือง

สยามเอยอุโมษครื้น      คุณขจร 
สุขสถิตสถาพร              ผ่านฟ้า 
ไตรรงค์ลิ่วลมสลอน      อวดโลก 
ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า       มื่อโน้นนิรันดร์เกษม


บทสรรเสริญพระบารมี

....วังทิพย์คือท้องทุ่ง           ม่านงามรุ้งคือเขาเขิน 
ร้อนหนาวในราวเนิน         มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์ 
   ย่างพระบาทที่ยาตรา       ยาวรอบหล้าฟ้าสากล 
พระเสโทที่ถั่งทน               ถ้าใหลรวมคงท่วมไทย



ขอจงทรงพระเจริญ            พระชนมเกินร้อยปีปลาย 
อาพาธพินาศหาย                ผองพาลพ่ายแพ้บุญใบ 
จงเสวยสวัสดิ์                     พูนพิพัฒน์ปราบมารภัย 
ผ่องแผ้วพระหฤทัย             ทุกทิพาราตรีกาล 
พระประสงค์ทุกสิ่งเสร็จ       แม้สรรเพชญพระโพธิญาณ 
ดำรงรัชย์ชัชวาล                  ดั่งเสียงสวรรค์นิรันดร์เทอญ
....................................................................


18-4.jpgleelawadee03.jpgbelle-vista001.jpg7223-1.jpg1236908234.jpg1207843053.jpg				
19 กรกฎาคม 2552 17:06 น.

สายรุ้ง...มิสิ้น...สลาย...!

พุด


เพรงบุพเพพาให้เรามาพบ
อย่าให้จบจากเจ็บจนเหน็บหนาว
กว่าจะไขว่คว้าขวัญร้อยเรื่องราว
ที่งามพราวราวสายรุ้งประดับใจ

เพราะกุศลเราสองเสมอเสมือน
รักคืนเรือนแต่ปางก่อนฤาไฉน
ให้สนิทชิดใกล้มิพรากไกล
หลอมฤทัยคงมั่นสวรรค์รอ

กุมมือกันฝ่าดั้นสู่แดนทิพย์
แดนนิมิตกราบกรานอธิษฐานขอ
พระพุทธองค์ทรงดำเนินล่วงไปรอ
เพียรให้พอมิท้อแท้มิแพ้ใจ

วันและคืนตื่นรู้ดั่งพุทธะ
เรียนสัจจะจากทุกข์มิหวั่นไหว
พบทางทองล่องเรือธรรมนำทางไป
สู่แดนไสวเกษมสุขตราบนิรันดร์....!
.....................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4423.html
เรือใบบนสายรุ้ง ใหม่ เจริญปุระ 

ฉันรู้ว่าเธออยู่ไหน
รู้ว่าเธออยู่ไกล
รู้ว่าเธอจะรอ อยู่ตรงปลายสายรุ้ง
ฉันต้องข้ามไป
ด้วยเรือใบสักลำ กับพลังของฉัน
และด้วยลมแห่งรัก กับวิญญาณของฉัน
แม้ว่าเธอจะไกลสักเพียงใด
ฉันก็จะไป ไปหากัน
เรือใบบนสายรุ้ง
จงนำความรักไป
มีคนที่รักฉัน
เขาจะคอยอยู่
คอยฉันด้วยหัวใจ
ประกายแห่งสายรุ้ง
นำทางให้ฉันที
ไปเจอความรักแท้ ที่ตรงปลายทาง
เจอใจที่ดีดี

แม้จะมีแต่ฉัน
อยู่บนความเวิ้งว้าง
แม้จะไปอีกไกล
แต่ไม่เคยอ้างว้าง
เพราะว่ามีจุดหมายอยู่ในใจ
ไม่ท้อไม่ลังเล ไม่หลงทาง
เรือใบบนสายรุ้ง
จงนำความรักไป
มีคนที่รักฉัน
เขาจะคอยอยู่
คอยฉันด้วยหัวใจ
ประกายแห่งสายรุ้ง
นำทางให้ฉันที
ไปเจอความรักแท้ ที่ตรงปลายทาง
เจอคนที่แสนดี
ดวงตะวันยังทอ สายรุ้งเรืองรอง
วางบนละอองสายฝน
เรือจะลอยลำไป
ในท้องฟ้าเบื้องบน
ค้นหารักที่แท้จริง
จะไม่มีวันใด ที่สายรุ้งเลือนลาง
ในการเดินทางครั้งนี้
ลมแห่งรักรุนแรง
อยู่ทุกวินาที
รู้ ว่าฉันจะมีเธอ

ฉันรู้ว่าเธออยู่ไหน
รู้ว่าเธออยู่ไกล
รู้ว่าเธอจะรอ อยู่ตรงปลายสายรุ้ง
ฉันต้องข้ามไป
แหละฉันจะเจอเธอ... 
 
				
18 กรกฎาคม 2552 19:24 น.

But Hope Still Remains...!

พุด


ติดปีกใจสู่ไพรกว้าง
ในเส้นทางสายรุ้งแห่งความฝัน
พบบึงบัวบานพราวมหัศจรรย์
ในรุ่งวันงามเงียบสงบใจ

ทอดตาดูดงตาลหวานว้าเหว่
รอรักเร่แรมร้างสู่ทางไหน
เจ้านวลนางเนื้อทองพลัดพรากไกล
นานแค่ไหนคืนบ้านวิมานดิน

แก้วร่วงพราวหนาวฤดีเดือนปีผ่าน
ลั่นทมรานปลิดโปรยด้วยถวิล
การะเวกพร่างพ้อรอมิสิ้น
กับฝนรินกับฟ้าร่ำทุกค่ำคืน

รักคือรอรอคือรักใช่ไหมเล่า
แม้นจำเศร้าหนาวซ้ำทุกคราตื่น
ด้วยเพรงพรหมชะตามิยั่งยืน
เพียงชีพชื่นฤารานช้ำรู้ทำใจ....!

 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song255.html
สายสร้อยร้อยใจ ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ 

สายสร้อยร้อยใจสายไยสวาท
หมายขาดหลุดสุดหนทาง
รักจางตรอมตรมไม่หาย
โอ้ใจเอ๋ย ไหน เลย มาหน่าย
ฟ้า ดินแม้สิ้นสลาย รักมิคลายรักสุดบูชา
สายจิตร้อยทรวงไยลวงหลอกหลอน
อกสั่น หวั่นรักรอน ยามกินยามนอนผวา 
ภาพความหลัง นั้น ยัง เตือนตา 
น้อง คงมิปรารถนา จึง ลาระทมตรมใจ
พี่ แพ้ เจ้าไม่แลเหลียวมองมาเลย 
อก เอ๋ย ไปชื่นชมหลงคารมใคร 
พี่ รัก ใช่หลอกลวงรักเต็มทรวงใน
รัก ซ่อนซ้อนใจ ห่วงหรือไรทิ้งพี่ให้ตรม
สายโซ่คล้องใจสายไยสวาท
พี่อยู่ ก็เหมือนคน ไม่กายไร้ใจชื่นชม 
สร้อยใจหาย รัก กลาย เป็นลม 
เหลือรอยสายสร้อยขื่นขม 
ร้อยอารมณ์ระทมตรมทรวง... 
 
  

ฝากหมอนนอนหอม..

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song591.html
(ฝากหมอน)
.................

คืนเดือนเสี้ยว...ที่จันทร์ดูแสนเศร้า
และ...
ใจดวงร้าวของมวลมนุษย์ในหล้า 
ยังคงมากมายมากมี
ที่รอ..
*ฝากใจไปกับจันทร์ ฝากฝันไปดาว *
เคล้า...ไปกับสายลมระริน..ระริน
ให้..
บินโบก ไปเหนือทางช้างเผือก
เหนือโลกย์โศกสุขนี้
ไปสู่
แดนดินแห่ง*ฝันพลี*
ที่แสนว่างงามแสนกระจ่างสงบสุข
ให้..
หยุดทุกข์กับความคิดถึงใดใด..
ไม่อยากมีแม้นใครสักคนเคียงข้าง
ไม่ต้องอ้างว้าง
กับการ..รอรักใครมาเติมเต็ม...


สำหรับ..
ใจดวง..ราวได้ยินเสียงเพลง*เดียวดาย*
ในคลองจิต
ราว..
ใครที่อยู่แสนไกลลิบ
มากระซิบร้องร่ำพร่ำบอก
ท่าม..ฟ้ากว้างเดือนเสี้ยว...
.................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song718.html
เดียวดาย

ขวัญ เอ๋ย
เคยภิรมย์ชิดชื่น สุขสันต์
หลง เพ้อฝัน
รักมั่น มิทันจะเนิ่น
เธอ เมินหมาง
โอ้ อ้างว้างอารมณ์ ฤดี
เหมือนโนรี
จากคอน หลงรังนอน
ลืม พี่ เหมือนชีวี
เดียวดาย เอกา
โอ้ ดึกเดือนคล้อย
เดือนเจ้าจะลอย จากตา
มอง นภายังเห็นดารา
เรียง ราย

เหลียวหา จนทิวาโฉมเจ้า แล หาย
หรือ รักแล้วแหนงหน่าย
รักเอ๋ย ลืมง่าย
ใย เมินเฉย
โอ้ ใจเอ๋ยใจเลย แรมรอน
ฉันยังจำ ติดตา
ทุกทิวาคืนก่อน
เหลืออาวรณ์ใจเอย ค่ำลง
โอ้ ใจสะท้อน
จะหลับจะนอนพะวง
ลืมไม่ลง
มันเหมือนมีมนต์ ดล ใจ...
.........................



ตะแบกคงแบกบานหวานตระการเต็มราวกิ่ง
ก่อนจะพรากลา..
ทิ้งกลีบโปรยปลิดปลิวไปตามสายลม
เมื่อทำหน้าที่บานให้โลกชม ลืมหมอง..แล้ว..
แก้ว..
คงครองขาวพราวนวลไม่นานช้า
แล้วก็เช่นเฉกกัน 
ก็จะพลันโรยร่วง ไร้รอยให้ใครมาหอมดอมชม..


ลั่นทม ชูดอกไร้ระทมดั่งชื่อ 
หากไม่ยึดมั่นถือมั่น
ก็...
แค่ดอกไม้งาม ที่ประดับโลกหวาน
ให้น้อมนำมา...
เปรียบประมาณทุกข์
ยาม...
หัวใจไร้สุขพบขื่นขมตรมตรอม
และ..
หอมเศร้าดั่งเจ้าลั่นทมเทียบ


จำปี..ทีผลิดอกมิมีจำ..
ว่ากี่ปีกี่เดือนกี่วัน
ที่ยังเฝ้าคงมั่นจงรักภักดี
และ
ไม่ยอมจำปี จำเดือนจำวัน 
มีเพียงภักดิ์มั่นเพียงนั้นเพียงนี้


พุดซ้อน..
อรชรอ่อนหวาน
ซ่อนกลีบรานพราวขาวสดสุดสะอาดพิลาสพิไล 
หาก..
ไยชื่อราวกลางกลีบใจมีอะไรซ่อนไว้อย่างล้ำลึก
ให้..
รู้สึกน่าค้นหาตามติด
ราวเสน่หา...คอยมัดจิตมัดใจ
ให้หวนหามิสร่างซา....
และ
ทุก..ดวงดอกไม้พรายพร้อยพราวประดับหล้า
หาก..
ยามใดถึงเวลา..
ก็จำต้องลากิ่งทิ้งต้น..
.อย่างมิอาจฝืนพ้นธรรมชาติธรรมดาๆ
............................................


ผ่านรักผ่านรานผ่านร้าว
ผ่านเศร้าผ่านสุขมิอาจฝืน
ผ่านเวลาติดปีกฝันมิหวนคืน
ถึงจะชื่นถึงจะช้ำวันผ่านไป

อะไรเล่าคงเหลือเมื่อวันพราก
ที่จะฝากประดับโลกให้สวยใส
นอกจากดีนอกจากให้นะดวงใจ
อย่าท้อใจรีบสร้างเสบียงบุญ

ลืมเรื่องราวหนาวรักไร้สาระ
อธิษฐานสัจจะใจหอมกรุ่น
เพียรมิท้อก่อสร้างดี ด้วยละมุน
ตราบโลกหมุนวิปัสสนาพาพ้นกรรม..
...................


และ..
ในท่ามวันที่ฟ้าสีฟ้าสดกระจ่าง
ดวง..
พาร่างไปเดินในท่ามผู้คนอลหม่านนับหมื่น

ไปยืนดูนักดนตรีริมถนน
ที่ใช้มนต์เสียงเพลงเรียกรอยยิ้ม
ไปยืนนิ่งๆฟังเสียงไวโอลิน..พริ้งพราว
ที่..
กำลังบรรเลงครวญคร่ำ*เงาไม้*และ
พาให้ใจดวงสะท้อนสะท้านจิต
ไปกับวันเวลาแห่งชีวิต..
ที่พรากลาไปนานนับหลายปี


ที่ใจดวงนี้..
ได้เพียรฝาก
*บทเพลงอมตะโบราณ*ไว้ในงานมากเรื่องราว
 เพื่อ..
ปลุกวิญญาณแห่งค่าคำอันแสนล้ำล้นเลอค่านั้น
ได้กลับมาสนองเสนอคนรุ่นหลัง 
ที่..
ยังมีพลังใจไฟฝันรักร่ายรจนา
อักษราภาษาไทยอันแสนละไมละมุน


ที่นับวัน...
จะหลงเหลือคนสมาธิมั่น 
ที่ยังพอมีเวลามาพลีแบ่งปัน
มาเททุ่มใจให้รักการอ่านเรื่องราวยาวๆ
เพราะ..
โลกทุกวันนี้
 คลุกเคล้ามากมีเทคโนโลยี่ที่มาป้อนปรน
จนสบายให้รู้สึกเบื่อง่ายกับการทำอะไรนานๆ 


ดวง...เดินเข้าร้านเครื่องแต่งบ้านโบราณ
ที่ผู้คนว่างวาย..
ราวได้ถอยหลังกลับไปในยุคเก่าก่อน
นั่น..
ตั่งไม้...
ที่ในสายใจดวงเห็นหมอนขวานวางไว้
ให้เอนอิงพิงร่าง 
เคียงข้างด้วยเชี่ยนหมากทองเหลือง
ไม่ก็ลายฉลุเงินงาม..


โน่นบุษบกทองคำ 
ภายในมีองค์พระพุทธรูปสุกปลั่งมลังเมลือง
ให้..ดูแสนอลังการในงานแกะสลักเสลา
เพรางามด้วยพลังศรัทธาปสาทะ

นั่น ระฆังแขวนไว้ 
ราวให้รำลึกนึกไปถึงโบสถ์คร่ำในวัดบ้านป่า
ที่..
พระสงฆ์ในจีวร งามแจ่มจ้า
กำลัง ลงโบสถ์ทำวัตรในยามค่ำ
ให้..
จรัสรัศมีสีทองอันสว่างไสวนั้น
 ราวเส้นทางนำพาจิตวิญญาณ
ให้ผ่านภพภูมิแห่งทุกขเวทนา 
อย่าได้วนมารับวิบากกรรมอีกเลย


ดวง...ยืนนิ่งงัน 
กับมากสิ่งอันพันละเล็กละน้อย
ที่..
พาให้ใจดวง
ถอยหลังโหยหาเงางามในบุพกาลก่อน
ใจดวงอรชร ราวมีน้ำตาปิติล้นหลั่ง
ยามดวงใจ...
ได้อบร่ำ
ด้วยกลิ่นไออวลแห่งนวลเนาในอดีตนั้น


ดวงได้..เสื้อผ้าไหมดีไซน์เก๋
ที่ใส่ได้สองด้าน
มีสีเขียวไพลและสีดำ 
และ..
ยามใส่นั้นคงจะงามล้ำหากเกล้าผมสูงสวย
แล้ว..
เสียบแซม
ด้วยดวงดอกไม้ไทยไทยในวันมงคลงาน


กับ
ได้เชิงเทียน ที่มีสองอันในโลก
เพราะเป็นงานไม้ไผ่สาน
มาทดลองวางขายดูในตลาด
ที่ใจดวงเกิดพิสวาทและได้มา


กับได้
ดวงดอกกล้วยไม้งามแจ่มจ้า 
บัวหลากสีมาพลีตระการ
ให้..
วิมานดินวิมานดวง... ได้ประดับ
และ....
ให้กับ...
ใจดวงนี้ที่ยังรัก....ความ
ดายเดียวเดียวดายตลอดกาลนานนิรันดร์....!
.....................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song591.html
ฝากหมอน...

คืน วัน นี้
ถ้า พี่ นอน หนุน หมอน น้อย
ใจ จง คล้อย
คิด ถึง น้อง เจ้า ของ หมอน
รอย แก้ม นิ่ม
ริม เขนย น้อง เคย นอน
หนาว หรือ ร้อน
หมอน คง เอื้อ อุ่น เจือ จุน
น้อง เคลีย แก้ม
ฝาก ไว้ ก่อน ให้ พี่
ซ้ำ กราบ ที่ กลาง หมอน
เคย นอน หนุน
ยาม พี่ แนบ หน้า นอน
หมอน ละมุน
จง หอม กรุ่น
แก้ม และ กราบ กำ ซาบ ทรวง

น้อง เคลีย แก้ม
ฝาก ไว้ ก่อน ให้ พี่
ซ้ำ กราบ ที่ กลาง หมอน
เคย นอน หนุน
ยาม พี่ แนบ หน้า นอน
หมอน ละมุน
จง หอม กรุ่น
แก้ม และ กราบ กำ ซาบ ทรวง...
.............
				
17 กรกฎาคม 2552 14:06 น.

คืนนี้...ไม่มีพระจันทร์...!

พุด


คืนนี้ไม่มีพระจันทร์
มีเพียงขวัญเพียงฝนหล่น
เงียบงันกลางกมล
หนาวเสียจนใจชาชิน

แลเห็นโลกย์เพียงโศกรอ
ทุกข์ทนท้อมิรู้สิ้น
มากชนบนผืนดิน
ทั่วไทถิ่นรอหวังใด

โรคซ้ำทั้งกรรมซัด
ภัยพิบัติน้ำหลากไหล
วิบากพสุธาฤาว่าไร
วิปโยคใจเกินรำพัน

ห่วงเอยห่วงที่รัก
ไกลกันนักสุดฟ้าฝัน
รอคอยเพียงคืนวัน
มิพรากกันนิรันดร...!
..................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song973.html
ดวงใจในฝัน 

รำพึงรำพัน ฝันรัก รักเอยใฝ่หา
ยังจำติดตาชวนปลื้ม ฉันลืมไม่ลง
เป็นรอยพิศวาส ปักใจมั่นคง
ฝังใจพะวง หลงรอคอย
อาวรณ์ใจครวญ หวนคิด คิดจนพร่ำเพ้อ
พาใจละเมอหมองหม่น คิดจนเลื่อนลอย
ยามนอน ถอนสะอื้น ตื่นตาแลคอย
คิดจนดาวลอย คล้อยเมฆา
ฝันกอดเชยชม ภิรมย์รื่น พี่ชื่นตื่นผวา
จนใจ ไม่มีใครเมตตา
เพียงนิทรา นิจจานึกว่าสุขเอ๋ย
บางคืนมองจันทร์หรรษา นิจจาอกฉัน
บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า น้ำตาหลั่งเลย
ลมเอยพริ้วยังแผ่ว ไม่มีแววเลย
เหงาใจจริงเอย หลงเชยแต่เงา

บางคืนมองจันทร์หรรษา
นิจจาอกฉัน
บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า
น้ำตาหลั่งเลย
ลมเอยพริ้วยังแผ่ว
ไม่มีแววเลย
เหงาใจจริงเอย
หลงเชยแต่เงา... 
 
				
16 กรกฎาคม 2552 17:49 น.

รอ..เธอมาเยือน...ในเรือนใจ....!

พุด


ขวัญยังรอตรงนี้ ณ ที่เก่า
ในร่มเงาเรือนรักเรือนแห่งฝัน
เรือนดอกไม้หอมนานาพันธุ์
เรือนหวานจันทร์ปันรักได้พักใจ

ดูเดียวดายเรือนไม้โบราณร่ำ
ที่ชื่นฉ่ำด้วยธรรมชาติพิสุทธิ์ใส
รายรอบเรือนล้อมด้วยบัวบังใบ
แลลงไปเห็นหมู่มัจฉามาว่ายวน

ยามราตรีได้กลิ่นสุคนธา
จำปีจำปากระดังงาอวลลมฝน
ทั้งพุดซ้อนโมกอรชรรสสุคนธ์
ให้กมลละมุนกรุ่นกำจาย

นี่คือเรือนงามใจไกลสับสน
ห่างผู้คนวนว่ายไร้จุดหมาย
กับกิเลสมากมีรอทำลาย
ก่อนจะสายยังหมายรอเธอ..ผู้มาเยือน...!
.........................


เธอมาเยือน

เธอมาเยือน..
เหมือนสายฝนพรำผิดฤดู
เหมือนฝันที่ค้างอยู่
เหมือนรู้ทั้งรู้แค่ฝันไป..

เธอมาเยือน...
เหมือนสายลมพัดหวั่นไหว
เหมือนเรียวรุ้งโค้งฟ้าไกล
เหมือนรอยยิ้มแต้มใจทุกทุกวัน...

เธอมาเยือน..
เหมือนทุ่งดอกไม้แห่งความฝัน
เหมือนโลกนี้ละออเกินจำนรรจ์
เหมือนสวรรค์เยือนหล้ากระจ่างใจ....

เธอมาเยือน..
เหมือนเพื่อนเหมือนดอกไม้ตระการไหว
เหมือนจันทร์เสี้ยวลบเศร้าสุขเกินใด
เหมือนแมกไม้ไพรไหวกิ่งฝันมอบวันงาม..
.............

ทุกแห่งหน...

ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..

ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตา
(ในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!
......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html
ณ.วันนี้ ...ละครทีวี เรือนมยุรา 

ญ... ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น
นานแสนนาน ฮืม
จึงมาเจอกัน
คล้ายบางสิ่งผูกพัน
ร้อยใจเราร่วมกัน
ช... ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น
นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน
ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา
ช... ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ.... หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช.... รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ.... คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม... นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป

ช.... ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ.... หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช.... รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ... คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม.... นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป... 
 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด