27 กรกฎาคม 2552 20:30 น.

ปลอบขวัญ...วันพบโศก..!

พุด


วันนี้พุดพัดชาถูกจี้
เป็นวันร้ายในรอบหลายปีเกือบเสียขวัญ
อาจจะพรากจากเธอไปนิรันดร์
ชีวิตนั้นไม่มีอะไรแน่นอน

ไม่เป็นไรใจดวงนี้อภัยให้
ผู้มุ่งร้ายแค่เมตตาอุทาหรณ์
ไม่ประมาทกับชีวิตทุกบทตอน
ที่ยอกย้อนแสนเศร้าเหน็บหนาวใจ

เสียทรัพย์ดีกว่าเสียชีวิต
ด้วยดวงจิตกรุณาน้ำใจใส
ยกให้เลยจะเอาอะไรไป
ขอลมหายใจยังมีพลีสร้างบุญ

ขออ้อมใจอ้อมกอดยอดมิ่งมิตร
ปลอบดวงจิตสร้างงามท่ามโลกหมุน
หยาดน้ำใจใสเย็นละไมละมุน
โอบเอื้ออุ่นแด่ทุกดวงใจในร่มรัก...!
........................


ไม่น่าเชื่อ
ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับชีวิตเราเอง
ท่ามโลกแล้งไร้
มากมายคนร้ายรายรอบ
ที่เราไม่เคยคิดระแวดระวัง

มองผู้คนในแง่บุญแง่บวก
นาทีที่ผู้ร้ายมายืนตรงหน้า
ยังคิดว่าใครสักคนที่เคยเมตตา
มาทายทัก...
เพราะในละแวกบ้าน
พุดพัดชาชอบเดินเดียวดาย
มาเนานานนักหลายปี
และ..
น้องๆมากมีที่มักคอยแวะเวียนถาม
ด้วยความมีน้ำใจรับขึ้นรถไปส่งบ้านวิมานดิน

แต่...รอยยิ้มหายไป
เมื่อเห็นมีดปลายแหลมวะวาววับ
ว่านี่คือความจริงในสังคมนี้
ที่ผู้คนมากมีที่กำลังอดอยากหิวโหย
และ..
ทำได้ทุกสิ่งปล้นชิงวิ่งราว

พุดพัดชา ให้อภัยแล้วค่ะ
ที่เค้ามาทำให้ตกใจมากจนเกือบขวัญเสีย
เสียขวัญ อันตรายถึงชีวิต
เพราะคิดดีว่าบุญกุศลคงคุ้มครองเรา
ให้แคล้วคลาดปลอดภัยเสมอ
เค้าคงดูท่าทีว่า
พุดพัดชาคงพอมีเงินแบ่งให้ใช้ได้
ละกระมังอิอิ
* เอาไปเลยนะ**เอาไปเลย*
นี่คือคำที่พุดบอกเขาคนนั้นค่ะ
อย่างมีสติ..ด้วยเมตตา...
..........................
				
26 กรกฎาคม 2552 23:14 น.

ได้ยินไหม....!

พุด


ได้ยินไหมเสียงหัวใจในคืนค่ำ
ขับลำนำคิดถึงอันซึ้งซ่าน
ได้ยินไหมเสียงดอกไม้แย้มผลิบาน
เสียงสายธารกระซิบพรายกับสายลม

ได้ยินไหมเสียงหัวใจเต้นว่ารัก
มอบอ้อมภักดิ์ให้พักพิงทิ้งขื่นขม
ได้ยินไหมเสียงสายฝนครวญระทม
ว่าตรอมตรมร่ำสังเวยแม่ธรณี

ได้ยินไหมเสียงดวงใจไทยร่ำไห้
เหมือนสิ้นไร้ความหวังแผ่นดินนี้
ได้ยินไหมเสียงบรรพชนผู้หาญพลี
หลั่งเลือดสีทาแผ่นดินตราบสิ้นใจ

ได้ยินไหมเสียงน้ำตาบ่าท่วมล้น
แสนทุกข์ทนเกินต้านแลทานไหว
ทั้งโลกหล้าใกล้มลายแล้วหรือไร
วิปโยคใจถามสิ้นทั้งอินทร์พรหม....!



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song175.html
เย้ยฟ้าท้าดิน 

ฟ้าหัวเราะเยาะข้า ชะตาหรือ
ดินนั้นถือ อภิสิทธิ์ ชีวิต ข้า
พรหมลิขิต ขีด เส้น เกณฑ์ชะตา
ฟ้า อินทร์ พรหม ยมพญา ข้า หรือเกรง
ฟ้า หัวเราะ เยาะเย้ย เหวยเหวยฟ้า
พสุธา อย่าครวญว่า ข้า ข่มเหง
เย้ย ทั้งฟ้า ท้าทั้งดิน สิ้น ยำเกรง
หรือใคร เก่ง เกิน ข้า ฟ้า ดินกลัว
ข้า ขอ ลิขิต ชีวิตข้าเอง ไม่เกรง ดิน ฟ้า
อีก พื้นพสุธา พญายม พรหมอินทร์ ทั่ว
ข้า กระทำ แต่กรรมดี มีหรือจะกลัว
มิใช่ใจชั่ว ลืม ตัว หลง ลำพอง
อัน สวรรค์ อยู่ในอก นรก นั่น หรือ
ข้า ก็ถือ อยู่ในใจ ไม่ หม่น หมอง
ละ การ ทำ ชั่ว ควรหรือจะกลัว นรก มั่นปอง
หาก ทำดี ฟ้าดินต้อง คุ้ม ครอง เอย... 
 
				
26 กรกฎาคม 2552 09:45 น.

คือหัตถาครองพิภพ..รักมิรู้จบ..นิรันดร์...!

พุด


เจ้าคือดวงดอกไม้
ให้งามวาบหวามไหว
กลีบนวลนุ่มละมุนละไม
เป็นขวัญไพรขวัญหล้าตระการ

หากมวลภู่ผึ้งภุมรินทร์
เพียงถวิลเชยชมน้ำผึ้งหวาน
ดูดดื่มดอกนั่นดอกนี้แล้วเลยผ่าน
ทิ้งรานทิ้งร้าวเศร้าลา

น้ำตาดวงดอกไม้
สังเวยให้ปรารถนา
เหยื่อบริสุทธิ์กามา
มายาธรรมชาติสวาทวาย

น่าเศร้ากับโลกโศกนัก
กับรักสูญสิ้นสลาย
ฝากภักดิ์ศักดิ์ศรีพลีกาย
เปล่าดายไหม้หมองครองใจ

พลีคำเตือนใจเตือนจิต
ผู้ให้ชีวิตยิ่งใหญ่
คือแม่คือเมียนะดวงใจ
ต่อสายใยอิ่มอุ่นหมุนโลกงาม....!

....................................

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2865.html
คือหัตถาครองพิภพ 

สองมือที่ดูนิ่มนวลอ่อนโยน
สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น
สองมือที่ดูไม่มีความสำคัญ
คือสองมือที่ทำ ให้โลกหมุนไป
แม้เพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง
แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย
ขอเพียงให้เป็นได้ดังที่ตั้งใจ
จะทุกข์ทนเดียวดายไม่มีความสำคัญ
บันดาลโลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปร
ไปด้วยมือเธอเสกสรร
ดังถ้อยคำประพันธ์
เปรียบเปรยพรรณนา
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้ แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล

บันดาล
โลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ
นำพาให้เป็นไปตามต้องการ
ทุกสิ่งเปลี่ยนแปร
ไปด้วยมือเธอเสกสรร
ดังถ้อยคำประพันธ์
เปรียบเปรยพรรณนา
ถึงชายได้กวัดแกว่งแผลงจากอาสน์
ซึ่งอำนาจกำแหงแรงยิ่งกว่า
อันมือไกวเปลไซร้ แต่ไรมา
คือหัตถาครองพิภพจบสากล... 
 
  				
24 กรกฎาคม 2552 23:59 น.

กุหลาบแดงแห่งความฝัน...!

พุด


เดียวดายในยามดึก
ลึกลึกอ้างว้างเส้นทางฝัน
มายาโลกโศกสุขวกวนวัน
สร้างสวรรค์ณ กลางใจไยต้องราน

ติดปีกใจสู่ไพรพง
แดนดงดวงดอกไม้แสนหวาน
วิมานดาวรายตระการ
ริมสายธารทะเลสาบสีทอง

เทพแห่งไพรประคองขวัญลบวันโศก
สร้างงามโลกมีเพียงแค่เราสอง
เกี่ยวก้อยกันทำดีพลีใฝ่ปอง
เพื่อลอยล่องท่องสู่แดนทิพย์

กุหลาบแดงผลิช่อกลางกอใจ
บานไสวดั่งเพรงพรหมลิขิต
เพียงแค่นี้ก็งามพอแล้วชีวิต
อธิษฐานจิตก่อนดินกลบหน้าฟ้าเปิดทาง...!
............................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1873.html
โลกแห่งความฝัน ...ใหม่ เจริญปุระ 

เมื่อชีวิต ยังรักที่จะฝัน
และบอกกับใจ ทุกวันที่ผ่านมา
ด้วยปีกแห่งฝัน จะโบนบินไปถึงฟ้า
หวังจะไปให้ถึงในซักวัน
กว่าชีวิต จะพ้นไปอีกวัน
อีกกี่ความฝัน ที่ฉันจะไขว่คว้า
อีกกี่คำถาม ที่รอคอย การค้นหา
แล้วถึงรู้ว่ามัน ไม่มีจริง
โลกแห่งความจริง
ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน
ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน
ทอดทิ้งฉัน ไปไหน
โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร
กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า
เฝ้ารอความฝัน
ให้ตกตะกอนช้า ช้า
เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง

โลกแห่งความจริง
ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน
ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน
ทอดทิ้งฉัน ไปไหน
โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร
กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า
เฝ้ารอความฝัน
ให้ตกตะกอนช้า ช้า
เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง... 
 
  				
24 กรกฎาคม 2552 10:38 น.

อุษาวดี...แด่ที่รัก...!

พุด


เช้าชื่นจากคืนช้ำ
ฟ้าร่ำลบโศกแด่โลกผอง
สังเวยเศร้าหนาวซ้ำแผ่นดินทอง
ให้รู้ปองรู้รักพักพิงใจ

ในร่มรักรัตนโกสินทร์
ผืนดินอุดมไสว
เรียวรวงระย้าลิบตาไกล
ท้องไทอิ่มอุ่นบุญนักแล้ว

แม่ดวงดอกพุดซ้อนอรชรชื่น
ปลุกให้ตื่นจากหอมอวลนวลดอกแก้ว
ริมหน้าต่างแลเห็นวะวับแวว
เมฆพราวแพรวฟ้าสว่างกระจ่างใจ

เสียงนกไพรกระซิบจากฟากฟ้า
หลงรอท่านวลดอกไม้ใจร้าวไหว
กระไรเลยเจ้ารอร่วงฤาเช่นไร
พรายพรากไปลำพังเซ่นหวังราน...!
ปลิดโปรยไปลำพังเซ่นหวังรอ...!

............................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song653.html
อุษาสวาท 
สุนทราภรณ์ 
ยาม อุษาฟ้ากระจ่าง
ทั่วนภางค์สว่างแล้ว
ตื่นนินทราเสียเถิด น้องแก้ว
สว่างแล้วนะ แก้ว ตา
แจ้ว จำเรียง
เสียงกระซิบ สั่ง ดั่งสัญญา
กระซิบคำรักว่า
อุษาสวาทปอง
อย่าข้องใจ
มอบฤทัยไว้ร่วมกัน
ยามน้องหนาวตัก
พี่ซบ ทรวงพักตร์
อุ่นไอรักจะอุ่นพลัน
อย่าโศรกศัลย์ ขวัญตา
เจ้าอย่าลืมสัมพันธ์
ปองรักกัน จนวันตาย
ใจ ผูกพันรักกันจนกว่า
ดินและฟ้าจะมลาย
อุษานี้มีมนต์ ดลรัก สลักใจ
ร่วมสายใยสวาทเอย

ยาม อุษาฟ้ากระจ่าง
ทั่วนภางค์สว่างแล้ว
ตื่นนินทราเสียเถิด น้องแก้ว
สว่างแล้วนะ แก้วตา
แจ้ว จำเรียง
เสียงกระซิบ สั่ง ดั่งสัญญา
กระซิบคำรักว่า
อุษาสวาทปอง
อย่าข้องใจ
มอบฤทัยไว้ร่วมกัน
ยามน้องหนาวตัก
พี่ซบ ทรวงพักตร์
อุ่นไอรักจะอุ่นพลัน
อย่าโศรกศัลย์ ขวัญตา
เจ้าอย่าลืมสัมพันธ์
ปองรักกัน จนวันตาย
ใจ ผูกพันรักกันจนกว่า
ดินและฟ้าจะมลาย
อุษานี้มีมนต์ ดลรัก สลักใจ
ร่วมสายใยสวาทเอย... 
 
  				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด